พร้อมลุยมาตรการกม.ควบคุม-ส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโต
แบงก์ชาติไต้หวันเผยอาจเริ่มทดสอบต้นแบบ CBDC อย่างเร็วที่สุดปลายปีนี้ โดยจะไม่ได้ใช้บล็อกเชนหรือสมาร์ทคอนแทร็ก แต่ดำเนินการผ่านระบบ “บัตรกำนัลดิจิทัล” ของกระทรวงกิจการดิจิทัลที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีแผนออกกฎหมายใหม่และปรับปรุงกฎหมายเดิมเพื่อสร้างกรอบโครงกฎระเบียบที่ครอบคลุมและชัดเจนสำหรับตลาดคริปโต ควบคู่ไปกับการส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล
หยาง ชิน-หลง ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน แถลงสั้นๆ ต่อรัฐสภาเมื่อวันพุธ (10 ก.ค.) ว่า ธนาคารกลางมีแผนร่วมมือกับกระทรวงกิจการดิจิทัลเพื่อผนวกต้นแบบสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) เข้ากับแพลตฟอร์มบัตรกำนัลดิจิทัลของกระทรวงกิจการดิจิทัล
อนึ่ง ก่อนหน้านี้รัฐบาลไต้หวันได้แจกบัตรกำนัลดิจิทัลเพื่อกระตุ้นการบริโภค
หยางเสริมว่า ในอนาคตหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลจะสามารถออกบัตรกำนัลดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มนี้ โดยที่กระทรวงกิจการดิจิทัลจะรับผิดชอบการแจกจ่ายบัตรกำนัล ขณะที่แบงก์ชาติจัดการการทำธุรกรรมการเงินหลังจากผู้ใช้จ่ายเงินด้วยบัตรกำนัล การกำหนดบทบาทนี้ช่วยรับประกันการแบ่งความรับผิดชอบที่ชัดเจนภายในระบบนิเวศดิจิทัล
แม้หยางไม่ได้ระบุกำหนดที่แน่นอนในการเริ่มต้นโครงการนำร่องหรือการออก CBDC แต่เจ้าหน้าที่แบงก์ชาติคนหนึ่งตอบข้อซักถามของสมาชิกสภาว่า การทดสอบต้นแบบ CBDC สำหรับระบบบัตรกำนัลดิจิทัลอาจเริ่มต้นภายในเดือนธันวาคมปีนี้หรือไตรมาสแรกปีหน้า
ขณะเดียวกัน ยูไนเต็ด เดลี่นิวส์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของไต้หวัน รายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมว่า ตามแผนการปัจจุบันนั้น แพลตฟอร์มบัตรกำนัลดิจิทัลอาจเริ่มทดสอบในเดือนสิงหาคมและใช้จริงในเดือนตุลาคม
แหล่งข่าวอีกคนสำทับว่า แผนการความร่วมมือระหว่างแบงก์ชาติกับกระทรวงดิจิทัลถือเป็นแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ โดยอาจใช้แพลตฟอร์มบัตรกำนัลดิจิทัลเพื่ออุ่นเครื่องสำหรับโครงการนำร่อง CBDC เนื่องจากการออก CBDC อาจใช้กลยุทธ์เดียวกัน รายงานยังระบุว่า พัฒนาการเหล่านี้อาจพลิกโฉมระบบการเงินของไต้หวัน
อนึ่ง ในวันเดียวกันนั้น เผิง จิน-หลุง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลภาคการเงินของไต้หวัน (FSC) แถลงว่า FSC กำลังพิจารณาข้อเสนอกฎหมายพิเศษสำหรับสินทรัพย์คริปโตที่มีแผนเสนอต่อสภาบริหาร (Executive Yuan) ซึ่งเป็นส่วนการบริหารประเทศสูงสุด ภายในเดือนมิถุนายน 2025 โดยกฎหมายใหม่นี้มีเป้าหมายในการสร้างกรอบโครงกฎระเบียบที่ครอบคลุมและชัดเจนสำหรับตลาดคริปโต
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมคริปโตในไต้หวันส่วนใหญ่ยังไม่มีกฎระเบียบควบคุม โดย FSC กำหนดให้ผู้ให้บริการคริปโตปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมคริปโตได้จัดตั้งสมาคมอย่างเป็นทางการเพื่อกำหนดกฎการกำกับดูแลตัวเองภายใต้แนวทางของรัฐบาล
นอกจากนั้นในเดือนพฤษภาคม กระทรวงยุติธรรมยังเสนอแก้ไขกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่มีอยู่ซึ่งจะกำหนดให้บริษัทคริปโตในท้องถิ่นและบริษัทต่างแดนที่ต้องการดำเนินการในไต้หวันต้องจดทะเบียนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายนี้ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี
ความพยายามเหล่านี้สะท้อนกลยุทธ์แบบหลายขั้นตอนของไต้หวันเพื่อกำกับดูแลควบคู่กับการส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมคริปโต



