ศาลสหรัฐฯ มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ โด ควอน ของ Terraform Labs เรียกเก็บเงินค่าปรับ 4.5 พันล้านดอลลาร์ โดยบคำตัดสินพบว่าจำเลยมีความผิดในการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์หลายครั้ง และกำหนดบทลงโทษและข้อจำกัดที่เข้มงวดในอนาคตของพวกเขา
จากการเปิดเผยของ cryptoslate ระบุว่า ศาลแขวงสหรัฐประจำเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ได้ออกคำพิพากษาถึงที่สุดต่อ Terraform Labs และ โด ควอน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทในคดีที่มีรายละเอียดสูง ซึ่งยื่นฟ้องโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ซึ่งในคำตัดสินพบว่าจำเลยมีความผิดในการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์หลายครั้ง และกำหนดบทลงโทษและข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับกิจกรรมในอนาคตของพวกเขา ซึ่งบทลงโทษดังกล่าวรวมถึงค่าปรับทั้งหมดประมาณ 4.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งในมูลค่ามหาศาลของอุตสาหกรรมคริปโต
ตามคำฟ้องของศาล เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน จำนวนเงินดังกล่าวประกอบด้วยค่าปรับ 3.6 พันล้านดอลลาร์ ดอกเบี้ยจากการพิพากษา 467 ล้านดอลลาร์ และค่าปรับทางแพ่ง 420 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ โด ควอน ต้องโทษในความผิดทั้งแบบรับผิดร่วมกัน และแยกจากกัน สำหรับจำนวนเงินค่าปรับ 110.0 ล้านดอลลาร์ จากการสูญเสียข้างต้น และดอกเบี้ยจากการตัดสินล่วงหน้า 14.3 ดอลลาร์
นอกจากนี้โด ควอน จะต้องโอนสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงผลประโยชน์ในการเป็นเจ้าของในโทเค็น PYTH และการถือครองอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของ Terraform ในจำนวนสินทรัพย์เหล่านี้ จะถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณาบทลงโทษทางการเงิน และส่วนนึง จะจำไปจ่ายชดเชยคืนให้กับนักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย ผ่านทางทรัสต์ที่มีการชำระบัญชี
อย่างไรก็ดี คำสั่งดังกล่าวอนุญาตให้ Terraform Labs ถือว่าจำนวนเงินที่ต้องชำระเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่มีหลักประกันในคดีล้มละลาย ซึ่งหมายความว่า ก.ล.ต. จะได้รับเงินผ่านการชำระคืนเมื่อแผนบทที่ 11 ของ Terraform Labs มีผลบังคับใช้ และอิงตามลำดับความสำคัญของการชำระคืน โดย ก.ล.ต. มีอำนาจบังคับใช้คำพิพากษาของศาลโดยใช้กระบวนการเรียกเก็บเงินที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด รวมถึงการดูหมิ่นทางแพ่ง หาก โด ควอนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งในการโอนค่าปรับภายใน 30 วันนับจากวันพิพากษา
นอกจากนี้ ศาลยังระบุอีกว่า โด ควอน ยังต้องจ่ายเงิน 204.3 ล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยค่าเสียหาย โดยแยกจากความรับผิดของเขาในการจ่ายเงินของ Terraform Labs (ซึ่งรวมถึงค่าเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์ ค่าดอกเบี้ยจากการตัดสินล่วงหน้า 14.3 ล้านดอลลาร์ และค่าปรับทางแพ่งอีก 80 ล้านดอลลาร์)
ห้าม "โด ควอน" ร่วมธุรกรรม การบริหาร การถือหุ้น ฯลฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
คำสั่งดังกล่าวยังห้ามไม่ให้ Terraform Labs และ โ888วอน ละเมิดบทบัญญัติต่อต้านการฉ้อโกงภายใต้มาตรา 10(b) ของพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยน และมาตรา 17(a) ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้ Terraform Labs และ Kwon ทำธุรกรรมในหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ทำธุรกรรมหลักทรัพย์ในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือชักจูงผู้อื่นให้ทำธุรกรรมในหลักทรัพย์ในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถาวร ท่ามกลางข้อจำกัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่มีข้อยกเว้นว่า ข้อจำกัดดังกล่าวอนุญาติให้ Terraform ยังสามารถทำธุรกรรมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีล้มละลายได้ โดยบริษัทสามารถหักลบคริปโตในส่วนที่ล้มละลายได้ โดยต้องได้รับอนุมัติจากศาล และต้องทำลายกุญแจกระเป๋าเงิน และเผาโทเค็นตามที่กำหนด นอกจากนี้ยังสามารถอนุญาตให้บุคคลที่ 3 ถอนตัว ถอนการลงทุน และทำสัญญาเงื่อนไขข้อตกลงที่ยืดหยุ่นบนแพลตฟอร์มของตนได้
นอกจากนี้ในคำสั่งดังกล่าว ยังห้ามมิให้โด ควอน ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ หรือผู้อำนวยการของผู้ออกหลักทรัพย์ที่มีการจดทะเบียน หรือมีภาระผูกพันในการรายงานอย่างถาวร
ทั้งนี้ หากพิจารณาข้อมูลย้อนหลังพบว่า ก.ล.ต. เริ่มดำเนินคดีกับ Terraform Labs และ โควอน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยกล่าวหาว่าบริษัทได้ฉ้อโกงนักลงทุนคริปโตซึ่งรวมถึงผ่าน Stablecoin Terra USD (UST) ที่พังทลายลงแล้ว ศาลพบว่าจำเลยต้องรับผิดฐานฉ้อโกงในเดือนเมษายนปีนี้
