Samsung ย้ำการใช้งาน AI ต้องผสมผสานการทำงานแบบไฮบริดทั้งการประมวลผลบนตัวเครื่อง และทำงานผ่านคลาวด์ เพื่อให้เข้าถึงความสามารถที่จะตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคได้ หลัง Galaxy S24 ซีรีส์ ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี และต่อยอดสู่การเปิดตัวสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นถัดไป
วอน จุน ชเว รองประธานบริหารและสำนักงานวิจัยและพัฒนาธุรกิจ Mobile eXperience ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ซัมซุงได้นำไฮบริด AI มาผสานใช้ในสมาร์ทโฟน Galaxy S24 Series เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยดึงศักยภาพของเทคโนโลยี AI ที่มอบความเป็นไปได้มากมาย มาผนวกลงบนสมาร์ทโฟนที่เป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลก
สอดรับกับพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่พึ่งพาสมาร์ทโฟนเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตและการทำงานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญหรือน่าจดจำในชีวิต ซัมซุงเชื่อมั่นว่าแนวทางแบบไฮบริดนี้จะเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างครอบคลุม
สำหรับแนวทางหลักในการพัฒนาของซัมซุง คือ การมอบความสมดุลระหว่างการตอบสนองที่รวดเร็วและความมั่นใจในการใช้ AI ที่เป็นส่วนตัว รวมไปถึงความสามารถที่หลากหลายของ AI บนคลาวด์ ที่เกิดจากการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรม เพื่อมอบฟังก์ชันตรงใจผู้ใช้ในทุกวัน
นอกจากนี้ ซัมซุงยังให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัว จึงมอบสิทธิในการควบคุมทั้งหมดแก่ผู้ใช้ให้สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกแชร์ข้อมูลอะไร และเก็บอะไรไว้เป็นส่วนตัว
พร้อมยกตัวอย่าง ฟีเจอร์การสื่อสารพื้นฐานที่ใช้พลังจาก AI อย่าง 'Live Translate' ที่ให้ผู้ใช้สื่อสารได้อย่างไร้ข้อจำกัดด้านกำแพงภาษา พร้อมรับประกันว่าทุกการสื่อสารจะปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
ที่ปัจจุบันขยายฟีเจอร์ Live Translate ไปยังแอปพลิเคชันการส่งข้อความและการโทร.ด้วยเสียง ทำให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกับเพื่อนได้หลายภาษา โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล ด้วยการประมวลผลบน NPU
การเปิดตัว Galaxy AI บน Galaxy S24 ซีรีส์ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเตรียมพร้อมก้าวต่อไปสู่การยกระดับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นบนสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นต่อไป โดยสมาร์ทโฟนพับได้ของซัมซุงรองรับการใช้งานที่หลากหลายและยืดหยุ่นที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Samsung Galaxy