หุ้นไทยดิ้นสุดแรงปิด +0.59 จุด นักวิเคราะห์เผยภาพรวมการลงทุนวันนี้ยังผันผวนไม่เลิก โดยดัชนีดีดขึ้นระยะสั้นและย่อลงช่วงท้ายตลาดแต่ยังไม่หลุดแนวบวกเล็กน้อย แม้ กนง. จะยังคงดอกเบี้ยตามที่คาดไว้ และมีโอกาสสูงที่ตรึงดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่ภาพรวมการเมืองในประเทศแม้ว่าจะกดดันภาคการลงทุนน้อยลง แต่ยังเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องติดตามต่อเนื่อง มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,310 จุด และแนวต้านที่ 1,326 จุด แนะจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมการลงทุนไทย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 12 มิ.ย. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.59 จุด หรือ +0.04% โดยปิดตลาดที่ 1,316.69 จุด มูลค่าซื้อขาย 46,526.49 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวสลับขึ้นทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,320.51 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,311.04 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 171 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 171 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 315 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,815.86 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -7.55 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -68.90 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,892.32 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,112.71 ล้านบาท ปิดที่ 59.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,956.60 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,791.46 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,452.13 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,349.30 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่78.00บาท เพิ่มขึ้น 3.25บาท หรือ 4.35%
2.HANA ปิดที่45.75บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 6.40%
3.KCE ปิดที่43.25บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 3.59%
4.MOSHI ปิดที่43.00บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 1.78%
5.CPN ปิดที่56.50บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 1.35%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่134.00บาท ลดลง 5.50บาท หรือ 3.94%
2.RCL ปิดที่26.00บาท ลดลง 4.25บาท หรือ 14.05%
3.KTC ปิดที่43.00บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 3.37%
4.EA ปิดที่20.10บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 4.74%
5.SCC ปิดที่229.00 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.29%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,791.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.98 จุด หรือ 0.22% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 812.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด หรือ 0.35% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 364.71 จุด ลดลง -1.57 จุด หรือ -0.43%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดขึ้นในระยะสั้น และย่อตัวมาปิดในแดนบวกเล็กน้อย เคลื่อนไหวคล้ายตลาดหุ้นภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยยังไม่สิ้นสุดภาวะผันผวน แม้วันนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.50% ต่อปีตามนักวิเคราะห์คาดและมีโอกาสสูงที่จะตรึงดอกเบี้ยในระยะต่อไป
ขณะที่ภาคการเมืองในประเทศแม้ว่าจะผ่อนแรงกดดันลง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลและคดีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีในวันนี้ แต่ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามจนกว่าจะมีคำตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมทั้งสองคดี และนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันที่ 18 มิ.ย. อย่างไรก็ตามแม้ Valuation หุ้นไทยปัจจุบันจะถูกแล้วแต่ด้วยแรงกดดันจากปัจจัยดังกล่าวทำให้การฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด
"ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งตัวลักษณะใกล้เคียงวันนี้ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ รอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ โดยมองกรอบแนวรับ 1,310 จุดและแนวต้าน 1,326 จุด" นายเทิดศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย