xs
xsm
sm
md
lg

แสนสิริผนึก TPIPL ชูนวัตกรรม “ปูนลดโลกร้อน” รุกใช้ “แนวราบ-คอนโดฯ” ทุกโครงการ เขย่าวงการอสังหาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แสนสิริเดินหน้าผู้นำอสังหาฯ ยั่งยืน ผนึก TPIPL วิจัย-พัฒนานวัตกรรม “กรีนซีเมนต์” สูตรใหม่ลดโลกร้อน ลั่นใช้ทุกโครงการแนวราบ-คอนโดฯ คาดลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 3,800 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2568 เท่ากับการปลูกต้นไม้ 4 แสนต้น สานเป้าหมายสู่ Net-Zero ภายในปี 2050

นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำ อสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน มีส่วนช่วยลดโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยรายแรกที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593) รองรับการเติบโตของโครงการใหม่ในอนาคต ไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง
ล่าสุด ได้ผนึกพันธมิตร บริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL วิจัยและพัฒนานวัตกรรมปูนซีเมนต์รักษ์โลก (กรีนซีเมนต์) สูตรใหม่ลดโลกร้อน ซึ่งจะนำมาใช้ในทุกโครงการของแสนสิริทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยได้นำมาเป็นส่วนผสมสำคัญในการผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (พรีคาสท์) ในโรงงานผลิตพรีคาสท์ของแสนสิริ ซึ่งเป็นโรงงานสีเขียว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 5-10% หรือประมาณ 50 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตัน เมื่อเทียบกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ นอกจากนี้ ในปี 2567-2568 แสนสิริประเมินว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเปลี่ยนมาใช้กรีนซีเมนต์ได้กว่า 3,800,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 400,000 ต้น

“ทุกโครงการของแสนสิริจะนำกรีนซีเมนต์มาใช้ โดยแนวราบจะใช้ผ่านพรีคาสท์ทั้งหมด ส่วนคอนโดมิเนียมจะนำมาใช้ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับแต่ละโครงการ ทั้งนี้ การสร้างบ้านหรือคอนโดมิเนียมปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมหาศาล ซึ่งปูนซีเมนต์เป็นส่วนประกอบหลักที่จะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ เราจึงเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของแสนสิริในการมุ่งสู่ Net Zero” นายอาณัติ กล่าว


ด้วยความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนากรีนซีเมนต์ ถือเป็นการดึงจุดแข็งและความเชี่ยวชาญด้าน “นวัตกรรมและเทคโนโลยี” ของทั้ง 2 องค์กรมาต่อยอด ภายใต้แนวคิดการเลือกวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย โดยยังคงคุณภาพ และประสิทธิภาพการใช้งานเทียบเท่า หรือสูงกว่าปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 1 โดยเฉพาะคุณสมบัติที่สำคัญด้านความต้านแรงอัด (Compressive Strength) ในทุกช่วงอายุ ผลิตโดยใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง ควบคุมคุณภาพโดยระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสม่ำเสมอ และได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระดับนานาชาติ และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับสากล

ขณะที่โรงงานพรีคาสท์ของแสนสิริมีอยู่ 4 แห่ง กำลังการผลิต (สร้างบ้าน) 3,700 หลังต่อปี เป็นโรงงานพรีคาสท์สีเขียวรายแรกในไทย นับเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันพันธกิจองค์กรด้านความยั่งยืน โดยมีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้าภายในโรงงาน การวางนโยบายการบริหารจัดการของเสียภายในโรงงาน และมีการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพสูง (หรือมีการจัดการขยะที่เหลือจากการเทชิ้นงานคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 99%) ส่งผลให้ได้รับการรับรองด้วย ISO9001 & ISO14001 และได้รับการรับรองจาก Accreditation Body, NAC รวมทั้งได้รับการตรวจประเมินตามหลักเกณฑ์จนได้รับการรับรองฉลากเขียวจากกระทรวงอุตสาหกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น