น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัว Sideway โดยมีแรงกดดันจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผย GDP ในไตรมาส 1/67 ขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4% จึงแนะนำจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีประเด็นบวกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมยกระดับเกณฑ์การซื้อขายใหม่ โดยเฉพาะการใช้มาตรการพิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดราคาทำชอร์ตเซลด้วยราคาสูงกว่าราคาครั้งสุดท้าย เพื่อไม่ให้เกิดการดัมป์ราคา (Uptick Rule) และการมี รมว.คลังที่ปรับใหม่ คาดว่าจะมาดูแลโครงการ Digital Wallet และปรับโครงสร้างภาษี จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,330-1,380 จุด
ส่วนประเด็นลบมาจากกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2567 มีมูลค่า 24,960.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (892,290 ล้านบาท) หดตัว 10.9%YoY มากกว่าที่ตลาดคาด -4% ถึง -5.9% จึงส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกไทยในไตรมาส 1/67 หดตัว 0.2%YoY ทั้งนี้ การส่งออกที่หดตัวมากกว่าที่คาดไว้ส่งผลให้กระทรวงการคลังปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 เหลือ 2.4% ลดลงจากประมาณการเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.8%
ขณะที่ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง เช่น วันนี้ 30 เม.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือน เม.ย. อียูรายงาน GDP ไตรมาส 1/67 และอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. (ประมาณการเบื้องต้น) สหรัฐฯ รายงานราคาบ้านเดือน ก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) รู้ผลเช้ามืดวันที่ 2 พ.ค. วันที่ 1 พ.ค. สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน เม.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน เม.ย. ดัชนีภาคการผลิตเดือน เม.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน มี.ค. วันที่ 2 พ.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน เม.ย. สหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย ดุลการค้าเดือน มี.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน มี.ค. และวันที่ 3 พ.ค. อียูรายงานอัตราว่างงานเดือน มี.ค. สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน เม.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน เม.ย. และดัชนีภาคบริการเดือน เม.ย.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวได้แก่ หุ้น CPALL, BJC, CRC, DOHOME, GLOBAL และ HMPRO
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าในส่วนสัปดาห์นี้ราคาทองคำถูกกดดันจากสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่คลี่คลาย และความกังวลว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก หลัง GDP สหรัฐฯ ในไตรมาส 1/67 ต่ำกว่าคาด จึงแนะนำให้ติดตามยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการสหรัฐฯ และการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำโดยรอให้ราคาทองคำยืนเหนือแนวรับที่ระดับ 2,300$/oz ก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง