นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้โดยหลักๆ ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโตที่ระดับมากกว่า 5% จากปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 4.1% โดยให้ความสำคัญใน 4 กลุ่มได้แก่ การขยายธุรกิจในกลุ่ม ASEAN Digital Banking ซึ่งธนาคารได้ออก Digital Lending ไปในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี มียอดสินเชื่้อประมาณ 300 ล้านบาท มีจำนวนผู้ใช้ช่องทาง Digital 400 ราย เป็นผู้ใช้งานสม่ำเสมอ 50% กลุ่ม Wealth ยังตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำตลาด และที่หนึ่งในใจลูกค้า Wealth Management โดยเน้นการหาพันธมิตรเพิ่มเติ่มโดยเฉพาะในกลุ่มประกัน เพื่อให้ครอบคลุมและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้ามากขึ้น
และกลุ่มลูกค้ารายย่อยจะโฟกัสที่สินเชื่อยานยนต์ โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2567 ได้เปิดตัว ‘One Auto Platform’ บริการสินเชื่อยานยนต์ ครอบคลุมทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ ผ่านบริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคาร โดยจะยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับตลาด และเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจผ่านบริการใหม่ เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนทั้งแบบโอนเล่ม และไม่ต้องโอนเล่ม ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายรวมสินเชื่อรายย่อยเติบโตที่ 5-10% จากยอดคงค้างรวม 161,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อบ้าน 121,000 ล้านบาท และสินเชื่อรถยนต์ 35,000 ล้านบาท
ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ 3.3-3.5% จากปีก่อนที่ 3.3% โดยธนาคารมีแนวทางการบริหารหนี้ NPL อยู่แล้วทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ และการขายออก แต่ยังไม่มีแนวทางในการจัดตั้ง หรือร่วมจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์แต่อย่างใด และตั้งเป้า Cost to Income ที่ระดับ 50% กลางๆ จากปีก่อนที่ 62.7% โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรอง Loss Coverage Ratio จะไม่สูงเท่าปีก่อนที่มีการตั้งสำรองกว่า 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้ Loss Coverage Ratio ของธนาคาร ณ สิ้นปี 2566 แตะระดับ 124.2% จากสิ้นปีก่อนหน้าที่ 114.6%
"ในปีนี้ยังคงโฟกัส ASEAN เป็นหลัก จากจุดแข็งของเครือข่ายกลุ่ม CIMB ทั่วอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องหลายปีจนสามารถพาบริษัทไทยขยายธุรกิจข้ามประเทศได้สำเร็จ โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อในอาเซียนเติบโต 10% ซึ่งการขยายสินเชื่อนั้นไม่ใช่เพียงแค่สินเชื่อ แต่จะมีธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ตามด้วย ขณะที่สินเชื่อรายย่อยสินเชื่อบ้านจะยังเป็นกลุ่มหลัก ขณะที่กลุ่มรถยนต์ยังต้องมีความระมัดระวังในการปล่อยกู้แต่เรายังเห็นโอกาสที่จะทำได้อยู่ โดยในกลุ่มลูกค้ารายย่อยจะเน้นในกลุ่มรายได้ 3-5 หมื่นบาทต่อเดือนเป็นหลัก"
นอกจากนี้ ทุกมิติของการทำธุรกิจของธนาคารจะขับเคลื่อนบนแกน Sustainability สอดรับกับเป้าหมายกลุ่ม CIMB ที่จะบรรลุ Green, Social Sustainable Impacted Products and Services (GSSIPS) จำนวน 1 แสนล้านริงกิต หรือ 7.7 แสนล้านบาทในปี 2567 โดยปี 2566 ทีมสินเชื่อรายใหญ่ได้สนับสนุนสินเชื่อความยั่งยืน จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ในการทำงานบนวิถีความยั่งยืน Net Zero ปี 2567 ตั้งเป้าหมายจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 36% เทียบกับปี 2562 (scope 1 และ 2) และเพื่อปลุกกระแสสังคมรวมพลังสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน