การประกาศแต่งตั้งนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เป็นกรรมการบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA กลายเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้หุ้น MGI และหุ้น AJA ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ราคาพุ่งทะลุเพดาน 30% ทั้งคู่
การพุ่งขึ้นทะลุเพดาน 30% ของหุ้น MGI และ AJA ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นปรากฏการณ์ที่นักลงทุนหยิบยกมาพูดกันในวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้น MGI
AJA ร้อนแรงตั้งแต่เปิดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนปิดที่ราคา 38 สตางค์ เพิ่มขึ้น 9 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 31.03% มูลค่าซื้อขาย 39.90 ล้านบาท เช่นเดียวกับ MGI ซึ่งราคาทะยานขึ้นตั้งแต่เปิดซื้อขาย ก่อนปิดที่ราคา 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 15.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 30.50% มูลค่าซื้อขาย 153.09 ล้านบาท
หุ้น AJA ย่ำอยู่แถว 25 สตางค์มาพักใหญ่ แต่หลังประกาศตั้งนายณวัฒน์ เป็นกรรมการบริษัท กลายเป็นนิยายชิ้นใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น และกระตุ้นราคาหุ้น AJA จนร้อนแรงรอบใหม่ ท่ามกลางคำถามว่า การที่นายณวัฒน์ เข้ามาเป็นกรรมการ จะพลิกฟื้นให้ผลประกอบการ AJA ใหกลับขึ้นมีกำไรได้หรือ หลังจากขาดทุนหลายปิดติดต่อ
นายณวัฒน์ จะเป็นเทพเจ้าที่ชุบชีวิตใหม่ให้ AJA ได้จริงหรือ และราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นทะลุเพดานมีใครลากขึ้นเพื่อล่อแมลงเม่าบินเข้ากองไฟหรือไม่
นักลงทุนไม่น่าจะลืมว่า AJA เป็นหุ้นที่มีประวัติโชกโชน โดยนายอมร มีมะโน เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งลงโทษปรับ 1.7 พันล้านบาท ในความผิดร่วมกับพวกรวม 40 ปั่นหุ้น AJA
แต่นายอมร ไม่ยอมจ่าย ก.ล.ต.จึงส่งเรืองฟ้องศาล เรียกชำระค่าปรับสูงสุด 2.3 พันล้านบาท คดีอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาล
นอกจากนั้น ก.ล.ต. ยังร้องทุกข์กล่าวโทษนายอมร และอดีตผู้บริหาร AJA รวม 4 คน ในความผิดทุจริต ยักยอกเบียดบังทรัพย์สินของบริษัท
AJA จึงเป็นหุ้นที่ติดภาพลบจากพฤติกรรมในอดีต และนักลงทุนอาจให้ความระมัดระวังการลงทุน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยนักลงทุนที่ย่อยยับกับหุ้นตัวนี้ ซึ่งราคาเคยถูกลากขึ้นไปสูง ก่อนจะถูกเทขายลงมาจนเหลือไม่กี่สิบสตางค์ และล่าสุดมีนักลงทุนรายย่อยติดหุ้นอยู่จำนวนกว่า 1,800 ราย
ข่าวการแต่งตั้งนายณวัฒน์ เป็นกรรมการ กลายเป็นตัวจุดพลุหุ้น AJA รอบใหม่ โดยไม่รู้ว่ารอบนี้ราคาจะถูกลากขึ้นไปไกลขนาดไหน และจะมีนักลงทุนตามแห่เก็งกำไรกันสักเท่าไหร่ จะมีใครบาดเจ็บล้มตายอีกหรือไม่
ส่วนหุ้น MGI เป็นหุ้นน้องใหม่ที่ร้อนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งแต่ซื้อขายวันแรกเมื่อ 14 ธันวาคม 2566 ราคาพุ่งทะยานต่อเนื่อง แม้ตลาดหลักทรัพย์จะใช้มาตรการกำกับถึงขั้นสูงสุด ขึ้นเครื่องหมาย P พักการซื้อขาย 1 วันหลายครั้งแล้วก็ตาม
แต่ไม่อาจสยบความร้อนแรงของหุ้นได้ โดยวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาถูกกระชากขึ้นมาปิดที่ 65.25 บาท เมื่อเทียบกับราคาจอง 4.95 บาท เพิ่มขึ้นมาแล้ว 60.30 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1,217.17% ทำให้ค่าพี/อี เรโช MGI กระโจนไปถึง 114 เท่า ซึ่งถือว่าสูงมาก
นักลงทุนกำลังเฝ้าจับตาดูตลาดหลักทรัพย์ว่า จะจัดการกับหุ้น MGI อย่างไร เพราะราคาที่ถูกลากขึ้นมาไกลขนาดนี้จนขาดปัจจัยพื้นฐานรองรับ
เป็นการซื้อขายที่ไม่เป็นปกติอย่างชัดเจน
และถ้าปล่อยให้ลากหุ้น MGI กันอย่างเย้ยฟ้าท้าดินต่อไป ไม่เพียงสะท้อนถึงความไร้สมรรถภาพของตลาดหลักทรัพย์ในการแก้ปัญหาหุ้นที่มีพฤติกรรมซื้อขายไม่ปกติแล้ว ยังตอกย้ำภาพลบตลาดหุ้นที่ถูกมองเป็นบ่อนพนันอีกด้วย
ในเมื่อตลาดหลักทรัพย์ยืนยันว่า การซื้อขายหุ้น MGI มีความผิดปกติ จนต้องนำมาตรการกำกับการซื้อขายขั้นสูงสุดมาใช้ จะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าความผิดปกติของหุ้นตัวนี้เกิดขึ้นในจุดไหน มีใครอยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้นหรือไม่
AJA กับ MGI กลายเป็นพันธมิตรกันโดยปริยายแล้ว หลังนายณวัฒน์ เข้าไปเป็นกรรมการ AJA และการที่ราคาหุ้นพุ่งทะลุเพดานพร้อมกัน ทำให้หุ้นทั้ง 2 ตัว เป็นหุ้นคู่แฝดอภินิหาร ราคาหุ้นขึ้นแรงได้ โดยไม่ต้องมีปัจจัยใดสนับสนุน ไม่ต้องมีพื้นฐานรองรับ
ขณะเดียวกัน ก็กลายเป็นคู่หุ้นอันตราย ใครไม่พร้อมเสี่ยงตายอย่าแหยมกับ AJA และ MGI