MGR Online ภาคเหนือ - หนุ่มอีสานอัดคลิปภาพเผยชีวิตแรงงานไทยสุดเสี่ยง..เจอหนี้ค้ำคอ-โบนัสล่อ นายจ้างอิสราเอลสั่งทำงานใต้ดงกระสุนกับบังเกอร์ กลางสงครามยิว-ฮามาส ที่ยังรุนแรงทุกวัน คนทนไม่ไหวทยอยนั่งรถขอสถานทูตฯ พากลับกันเอง
หลังเพื่อนร่วมงานคือ นายกรัชกร พุทธสอน (หรือโจ้) คนงานไทยชาวพะเยา ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บขณะกองกำลังฮามาสบุกถล่มยิววันแรก 7 ต.ค. 66 และได้รับการช่วยเหลือพากลับมาตุภูมิแล้ว นายสรชวน สุระพิชัย แรงงานหนุ่มไทยในอิสราเอล อายุ 43 ปี ชาว อ.หนองหาร จ.สกลนคร ได้อัดคลิปภาพเหตุการณ์การสู้รบในอิสราเอล ที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ (17 ต.ค. 66) ติดต่อ MGR Online ภาคเหนือ เพื่อเผยแพร่ขอให้ทางการไทยหาทางช่วยเหลือ
นายสรชวนให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลว่าสถานการณ์ในอิสลเอลตอนนี้เลวร้ายขึ้นทุกวัน ยังมีกลุ่มคนงานไทยที่ยังไม่ได้กลับ และทำงานเสี่ยงตายห่างจากกองกำลังฮามาสไม่กี่กิโลฯ มีทั้งคนเหนือและคนอีสานที่ยังถูกนายจ้างสั่งทำงาน บางรายทนไม่ไหวทิ้งค่าจ้างเดินทางกลับทีละคนสองคน เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย อยากวิงวอนถึงรัฐบาลช่วยเข้ามาดูแลคนไทยที่ยังอยู่ในสงครามอิสราเอลด้วย
สำหรับตนมาทำงานที่อิสราเอลเกือบจะถึง 5 ปีแล้ว แม้จะมีสงครามอยู่ตลอด แต่ครั้งนี้หนักหนาจริงๆ ฟาร์มที่ตนทำงานเป็นงานเกี่ยวกับโรงเพาะดอกไม้ ผักต่างๆ ซึ่งมีแรงงานไทยทั้งภาคเหนือ และอีสาน ทำงานด้วยกันอยู่ 14 คน และเดินทางกลับไป 2 คน ตอนนี้ยังค้างอยู่อีก 12 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะทยอยตัดสินใจกลับกันไปอีก เพราะทนอยู่ต่อไปไม่ไหวเนื่องจากมีการสู้รบกันรุนแรงขึ้น
ซึ่งที่ตนทำงานอยู่ห่างจากฉนวนกาซา ประมาณ 9 กิโลเมตร มีการยิงกันทุกวันและรุนแรงขึ้นๆ นายจ้างก็กดเงินค่าจ้างและกำหนดเงื่อนไขโบนัส สั่งให้ทำงานอยู่ตลอด บางวันมีการสู้รบกันหนัก ต้องวิ่งหนีเข้าบังเกอร์เกือบไม่ทัน ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง
“แรงงานไทยที่อยู่บริเวณนี้ บางรายทนไม่ไหวเก็บกระเป๋านั่งรถเดินทางไปสถานทูตเองเพื่อขอความช่วยเหลือให้พากลับไทย อยากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยดูแลคนไทยที่ทำงานในอิสราเอล เพราะตอนนี้ยังตกค้าง และเสี่ยงตายอยู่ในสงครามกันอีกมาก”
สำหรับเหตุการณ์การสู้รบในครั้งนี้ ในส่วนพื้นที่ที่ตนทำงานอยู่เป็นเขตแนวป่าที่ห่างจากกาซาประมาณ 9 กิโลเมตร ก่อนหน้านั้นมีทหารฮามาสเข้ามาโจมตี และทางทหารอิสราเอลได้มาช่วยสกัดพวกตนจึงรอด และวันที่ โจ้-กรัชกร ชาวพะเยา และเพื่อนถูกยิง ตนได้คุยกับเพื่อนที่ถูกยิงทางโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเสียงปืนก็ตกใจ เนื่องจากที่ทำงานของตนอยู่ไม่ไกลกัน จึงพาเพื่อนร่วมงานทั้ง 14 คนวิ่งหนีเข้าไปอยู่ในป่า จนสถานการณ์วันนั้นสงบก็พาเพื่อนคนงานเข้ามาที่แคมป์ และหลบอยู่ในบังเกอร์
“ทุกครั้งที่มีการยิงจะพากันวิ่งไปหลบที่บังเกอร์ ซึ่งแต่ละวันไม่ได้หลับได้นอนต้องคอยระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าจะถูกระเบิดหรือถูกทหารฮามาสเข้ามาตลบยิงในบังเกอร์ และตอนนี้แรงงานไทยบางคน ผลสถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้นทุกวัน ไม่ไหวก็พากันทยอยหารถที่จะเดินทางไปสถานทูตและทำเรื่องขอกลับประเทศไทย เพราะสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน คาดว่าถ้าอยู่กันต่อก็จะเอาชีวิตไม่รอดกันอีกมากแน่ๆ”