เชียงราย - เปิดใจแรงงานหนุ่มเชียงราย จำใจเสี่ยงอยู่อิสราเอลต่อพร้อมคนไทยกลุ่มใหญ่ พร้อมวิดีโอคอลเผยจุดระเบิดตกห่างแคมป์ 400-500 เมตร แต่ล่าสุดเริ่มสงบแล้ว บอกทุกคนกลัว-อยากกลับ แต่ต้องทนใช้หนี้-ดูแลครอบครัว
สงครามอิสราเอลกับกองกำลังฮามาสที่เริ่มมาตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ทำให้แรงงานไทยเจ็บ-ตาย-ถูกจับเป็นตัวประกันหลายสิบราย ขณะที่บางส่วนได้รับการช่วยเหลือทยอยพากลับมาตุภูมิต่อเนื่องนั้น ในส่วนของแรงงานชาวเชียงรายที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล รวม 2,174 คน ล่าสุดเดินทางกลับถึงภูมิลำเนาแล้ว 6 คน ชุดแรกเป็นชาว อ.เวียงแก่น 1 คน ชุดที่ 2 เป็นชาว อ.แม่ฟ้าหลวง 2 คน ชุดที่ 3 เป็นชาว อ.เทิง 1 คน และ อ.เวียงแก่น 2 คน
อย่างไรก็ตาม มีแรงงานหลายคนตัดสินใจอยู่ทำงานต่อในอิสราเอล หนึ่งในนั้นคือนายเอกชัย บุญสาม อายุ 38 ปี ชาว ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งได้ทำคลิปภาพให้เห็นถึงสถานที่ทำงาน สภาพการทำงาน จุดที่ระเบิดตกในวันปะทะ และบอกเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับประเทศไทย
นายเอกชัยได้วิดีโอคอลมาถึงญาติพร้อมแจ้งข่าวว่าตนเพิ่งเดินทางไปทำงานได้เพียง 7 เดือน พักอยู่แคมป์คนงานรวมกัน 4 คนในเมืองคีรีกาส ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 40 กิโลเมตร ทำหน้าที่ปลูกพืชผัก อะโวคาโด องุ่น ฯลฯ รวมทั้งทำปศุสัตว์เลี้ยงไก่ในโรงเรือน ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานและอยู่ในแคมป์คนงานโดยไม่ได้ออกไปไหน
กระทั่งเกิดเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ก็มีลูกระเบิดตกลงในพื้นที่ทางเหนือและใต้ของแคมป์ที่พัก ห่างออกไป 400-500 เมตร แต่เป็นพื้นที่โล่งทำให้ไม่มีคนได้รับอันตรายมีเพียงไฟลุกไหม้และเมื่อมองดูไกลๆ ก็เห็นมีกลุ่มควัน จากนั้นมีเสียงปืนดัง กระทั่งถึงวันที่ 13 ต.ค.เสียงจึงเงียบลง และกลับมาสงบ ไม่มีกองกำลังติดอาวุธเข้าไปถึง ดังนั้นพวกตนจึงตัดสินใจว่าจะอยู่ทำงานต่อ แต่ก็จะดูสถานการณ์หากว่าเหตุการณ์ทวีความรุนแรงก็อาจจะตัดสินใจอีกครั้ง
นายเอกชัยกล่าวว่า ตนก็กลัวและอยากกลับบ้าน แต่เพราะมีหนี้สินที่ต้องชดใช้และมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัวจึงต้องเสี่ยงทำงานต่อไป ปัจจุบันตนและเพื่อนๆ ได้รับค่าจ้างคนละ 50,000 ต่อเดือน ซึ่งก็เพียงพอที่จะส่งกลับไปให้ญาตินำไปใช้หนี้และเลี้ยงดูครอบครัว
แต่หากกลับไทยก็ไม่มีงานหรือถ้าจะย้อนกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ดังนั้นจึงตัดสินใจอยู่ต่อจนกว่าจะใช้หนี้สินหมดจากนั้นจะเก็บเงินเพื่อเป็นค่าเดินทางกลับต่อไป
“พื้นที่ที่ผมอยู่ยังมีคนไทยอยู่เป็นจำนวนมากและอยากกลับบ้าน แต่กลับไม่ได้เพราะมีภาระจำเป็น วันนี้ผมและคนไทยต่างออกมาทำงานเหมือนเดิม ผมเลี้ยงไก่และเก็บไข่ให้นายจ้าง จึงขอให้ทางบ้านไม่ต้องห่วง”