ที่ปรึกษาของธนาคารกลางยุโรป ( European Central Bank : ECB) ได้กล่าวถึงการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมาว่าเป็น “เสื้อผ้าใหม่ของจักรพรรดิ์เปลือยเปล่า” ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่ผู้คนหลงเชื่อหรือแกล้งทำเป็นเชื่อในสิ่งที่ไม่จริง ในโพสต์ล่าสุด
อุลริช บินด์ไซล์ ผู้อำนวยการและที่ปรึกษาทั่วไปด้านโครงสร้างพื้นฐานตลาดและการชำระเงินของ ECB และ เยอร์เกน ชาฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์บิทคอยน์ โดยสรุปว่านั้นไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในฐานะผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน และเครื่องมือในการชำระเงิน
ที่ปรึกษา ECB กับความท้าทายผู้นิยมบิทคอยน์
ในขณะที่การอนุมัติ บิทคอยน์ สปอต อีทีเอฟ ในเดือนมกราคม ถูกมองว่าเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของ crypto และเป็นสัญญาณของความสำเร็จในอนาคต อุลริช บินด์ไซล์ และ เยอร์เกน ชาฟ ต่างออกมาคัดค้านแนวคิดดังกล่าว โดยยืนกรานว่า การปรับขึ้นของราคาบิทคอยน์นั้น ไม่สามารถเอามากล่าวอ้างถึงชัยชนะได้ โดยที่ปรึกษาทั้งสองยืนยันว่ามูลค่ายุติธรรมของ Bitcoin ยังคงเป็นศูนย์
นอกจากนี้พวกเขายังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะเฟื่องฟูและล่มสลายอีกครั้ง โดยระบุว่าเป็นแนวโน้มที่เลวร้ายและอาจมีความเสียหายต่อหลักประกันมหาศาล รวมถึงความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และการกระจายความมั่งคั่งที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ที่มีความรู้น้อย
ขณะเดียวกัน เขายังเน้นย้ำว่าธุรกรรม Bitcoin ยังคงซบเซา ไม่สะดวก และมีค่าใช้จ่าย นอกเหนือจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมายบน dark net แล้ว สกุลเงินดิจิทัลยังมีการใช้การชำระเงินเพียงเล็กน้อย โดยยกตัวอย่างของประเทศเอลซัลวาดอร์แม้ว่าจะให้สถานะการชำระเงินตามกฎหมาย แต่ก็ล้มเหลวในการกำหนดให้เป็นวิธีการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจำกัดอยู่ในกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น
อุลริช บินด์ไซล์ และ เยอร์เกน ชาฟ โต้แย้งว่าความพยายามด้านกฎระเบียบในการควบคุมการใช้ บิทคอยน์ ซึ่งในทางอาญาจำนวนมากนั้นไม่ได้ผล เพราะราคาของสกุลเงินดิจิทัลยังเผชิญกับการบิดเบือนอย่างมาก และการขุดบิทคอยน์โดยใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work ซึ่งใช้พลังงานมาก ยังคงก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในระดับเดียวกับทั้งประเทศ
ที่ปรึกษายังเน้นย้ำว่าบิทคอยน์ไม่ใช่การลงทุนที่เหมาะสม เนื่องจากไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ พวกเขากล่าวว่าบิทคอยน์ ขาดการใช้งานและล้มเหลวในการให้ผลประโยชน์ทางสังคมต่างจากสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ พวกเขาแสดงความกังวลว่านักลงทุนรายย่อยที่มีความรู้ทางการเงินน้อยจะถูกหลอกลวงและถูกดึงดูดเข้าสู่การสร้างความมั่งคั่งจอมปลอมผ่านทางความโลภที่จะรวยด้วยยบิทคอยน์เนื่องจากกลัวว่าจะพลาดโอกาสการลงทุน ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุน หรือ ถูกฉ้อโกงในรูปแบบใหม่ๆ
"ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของบิทคอยน์" ในมุมมองของ ECB
คำวิพากษ์วิจารณ์ล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากบทความของ ECB ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ยืนยันว่าบิทคอยน์กำลังเข้าใกล้ “จุดสิ้นสุด” ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากข้อสังเกตนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการชะลอตัวของตลาด หลังจากการล่มสลายของ FTX
ในโพสต์ ECB ยังได้โต้แย้งกับสมมติฐานที่ว่าบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบิทคอยน์ปรับตัวร่วงลงมาถึงจุดต่ำสุดของตลาดหมีที่ 16,000 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ก่อนที่หลังจากนั้น จะมีการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 225% สู่ระดับ 51,930 ดอลลาร์
ในขณะเดียวกันในการตอบคำถามสำนวนเปรียบเทียบที่ว่า “เหตุใดแมวที่ตายแล้วจึงกระโดดสูงมาก” ที่ปรึกษาของ ECB ระบุว่าการฟื้นตัวของบิทคอยน์นั้น เกิดจากสาเหตุปัจจัยหลายประการ พวกเขาชี้ให้เห็นถึงความคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เหตุการณ์ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นสำหรับ Bitcoin ในช่วงเดือนเมษายน 2567 ซึ่งรางวัลบล็อกสำหรับนักขุดจะลดลงครึ่งหนึ่ง และการเปิดตัว Spot ETFs เมื่อเร็ว ๆ นี้ในฐานะตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังกระแสที่เพิ่มขึ้น
โดยล่าสุดราคาบิทคอยน์ จากเว็บไซต์ติดตามราคาเหรียญคริปโต coinmarketcap อยู่ที่ $51,747.67 ต่อเหรียญบิทคอยน์ ลดลง -1.55% (รอบ 24 ชั่วโมง)