นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (20 ก.พ.) ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.03 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.20 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 35.98-36.12 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงของราคาทองคำ ขณะเดียวกัน เราประเมินว่าการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้อาจมีส่วนกดดันเงินบาทให้ผันผวนอ่อนค่าได้ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบ
สำหรับวันนี้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอาจมีไม่มากนัก ทว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) เพื่อช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจหรือไม่ หลังล่าสุด PBOC ได้คงอัตราดอกเบี้ย MLF-1y ไว้ที่ระดับ 2.50% เพื่อช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าที่อาจเกิดขึ้นกับเงินหยวนจีน (CNY)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงิน ซึ่งการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ BOE และ ECB อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินยูโร (EUR) ในช่วงนี้ได้
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หลังเงินดอลลาร์กลับมารีบาวนด์แข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกัน โฟลว์ธุรกรรมเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำ รวมถึงน้ำมันดิบมีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้หากภาพรวมเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ดี ซึ่งเราคาดว่าทิศทางราคาน้ำมันดิบอาจขึ้นกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
นอกจากนี้ รายงาน GDP ไตรมาส 4 ปี 2023 ของไทยที่ออกมาแย่กว่าคาด ยังคงทำให้บรรดานักวิเคราะห์ต่างชาติต่างคาดหวังว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีนี้ ซึ่งมุมมองดังกล่าวอาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง แต่โดยรวม เรายังคงประเมินว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นเริ่มแผ่วลงบ้าง (สอดคล้องกับสัญญาณเชิงเทคนิคัลที่เราได้ประเมินก่อนหน้า) ทำให้แม้เงินบาทจะผันผวนอ่อนค่าลง แต่อาจยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ เงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนการแข็งค่า ทำให้แม้เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าขึ้นอาจยังติดโซนแนวรับ 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง