หุ้นไทยปิดตลาด +1.06 จุด นักวิเคราะห์ชี้ หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบ มูลค่าการซื้อขายอยู่ในวงจำกัด ชี้ตัวเลข GDP ของสภาพัฒน์ กดดันตลาด โต 1.7% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ราว 2.6% และปี 66 ขยายตัวเพียง 1.9% แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดฯ น่าจะยังแกว่งตัวออกด้านข้างไปก่อน เนื่องจากยังไม่ได้มีอะไรหวือหวา โดยนักลงทุนส่วนมากเล็งเข้าเก็บหุ้นปันผล ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้านที่ 1,395 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 19 ก.พ. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.06 จุด หรือ +0.08% โดยปิดตลาดที่ 1,387.33 จุด มูลค่าซื้อขาย 31,776.98 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,390.92 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,382.88 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 278 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 185 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 191 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,223.11 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -157.55 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -381.66 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -683.90 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,284.87 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,247.56 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 740.48 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 728.85 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.STA มูลค่าการซื้อขาย 707.83 ล้านบาท ปิดที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.STA ปิดที่ 18.40บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท หรือ 10.84%
2.INTUCH ปิดที่ 73.75บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.37%
3.CPNปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.97%
4.GPSC ปิดที่52.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.95%
5.RCLปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.98%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP(XD) ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.90%
2.AEONTS ปิดที่ 149.00บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.65%
3.EGCO ปิดที่ 128.50บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.77%
4.SCCปิดที่264.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.38%
5.CBGปิดที่72.50บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.02%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,876.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด หรือ 0.08% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 846.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด หรือ 0.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 419.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด หรือ 0.22%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบๆ มูลค่าการซื้อขายยังไม่มาก โดยมีปัจจัยกดดันจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4/66 โต 1.7% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ราว 2.6% และปี 66 ขยายตัวเพียง 1.9% แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญกับตลาด เนื่องจากตัวเลขใกล้เคียงกับคาดการณ์ของกระทรวงการคลังที่ระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งนักลงทุนรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
ขณะที่ไม่ได้มีปัจจัยเข้ามาสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนให้ SET ปรับตัวขึ้นต่อ เป็นเพียงการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่จะมีการจ่ายเงินปันผลสูง เช่น หุ้นกลุ่มยาง STA, STGT, TRUBB แม้ผลประกอบการออกมาไม่ได้เด่น แต่ปันผลถือว่าค่อนข้างเด่น
"ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดฯ น่าจะยังแกว่งตัวออกด้านข้างไปก่อน เนื่องจากยังไม่ได้มีอะไรหวือหวา แนะติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเมื่อเดือน ม.ค. ในคืนวันพรุ่งนี้, ตัวเลขเศรษฐกิจ PMI ของสหรัฐ และยุโรป ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ส่วนในประเทศยังคงติดตามการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดหุ้นไทยให้มีแรงขยับขึ้น โดยมองแนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้านที่ 1,395 จุด" นายวิจิตร กล่าวทิ้งท้าย