หุ้นไทยกลับมาร่วง -0.23 จุด นักวิเคราะห์ฯ ชี้หุ้นไทยวันนี้แกว่งออกข้าง ไร้ปัจจัยใหม่ อีกทั้งแรงกดดันต่างประเทศเข้ามากดดัน หลังเริ่มกังวลเฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด ส่งวผลให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง มองกรอบสัปดาห์หน้าแนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,410 จุด แนะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอาจกำหนดทิศทางดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 9 ก.พ. 2567 ปรับตัวลดลง -0.23 จุด หรือ -0.02% โดยปิดตลาดที่ 1,388.37 จุด มูลค่าซื้อขาย 29,071.10 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งไซด์เวย์โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,391.75 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,385.02 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 223 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 203 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 229 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,474.69 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +95.71 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -858.82 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -711.58 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,753.97 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,220.32 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,019.73 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 982.09 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 874.93 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 245.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.66%
2.SAPPE ปิดที่ 86.75บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.06%
3.SISB ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.70%
4.CPN ปิดที่ 63.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.60%
5.TOP ปิดที่ 56.50บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.35%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 119.50บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.83%
2.SCB ปิดที่ 103.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.96%
3.BBL ปิดที่ 141.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.70%
4.AEONTS ปิดที่ 154.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.65%
5.MEGA ปิดที่ 40.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.81%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,880.93 จุด ลดลง -1.91 จุด หรือ -0.10% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 848.58 จุด ลดลง -1.04 จุด หรือ -0.12% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 416.29 จุด เพิ่มขึ้น 3.40 จุด หรือ 0.82%
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งออกด้านข้างในกรอบค่อนข้างจำกัด ไร้ปัจจัยใหม่เข้ามามีผลต่อดัชนี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนเริ่มมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยสูงยาวนานกว่าคาด ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งกดดันสินทรัพย์เสี่ยง
"แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดดัชนียังแกว่งตัวในกรอบจำกัด นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/66 และถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟดสาขาต่าง ๆ รวมทั้งการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ในคืนวันอังคารที่ 13 ก.พ. เพื่อบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐและทิศทางดอกเบี้ย ตลาดคาดเงินเฟ้อสหรัฐจะอ่อนตัวลงประมาณ 2.9% ชะลอตัวลงต่อเนื่องแต่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยประเมินกรอบการลงทุนดแนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้านที่ 1,410 จุด" นายณรงค์เดช กล่าวทิ้งท้าย