ฟื้นความเชื่อมั่น-ฟื้นตลาดหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดถึงปัญหาตลาดหุ้นที่ซบเซาอีกครั้ง ระบุถึงต้นเหตุเกิดจากนักลงทุนขาดความมั่นใจในการกำกับดูแล การแก้ปัญหาที่คั่งค้างสะสม

หุ้นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา และเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นคือ หุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK หุ้นบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN

สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถูกสั่งให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหา เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาหลายครั้งแล้ว

ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างหนักและต่อเนื่องนับจากปี 2566 เพราะหลายเหตุปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ การเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ การสร้างราคาหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE

การแต่งบัญชีของ STARK และปัญหาหุ้นกู้ JKN ที่ไม่สามารถไถ่ถอนเมื่อครบกำหนดชำระเงินคืนผู้ถือหุ้นกู้ รวมทั้งปัญหาโปรแกรมเทรด หรือ ROBOT TRADING การยืมหุ้นมาขาย หรือ SHORT SELL รวมทั้งการขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ หรือ NAKED SHORT

ไม่เพียงนักลงทุนในประเทศเท่านั้นที่หมดความเชื่อมั่น แต่นักลงทุนต่างชาติหันหลังให้ตลาดหุ้นไทย และเทขายหุ้นมาตลอด เพิ่งกลับมาซื้อใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ผ่านมา รวม 2 วันซื้อกว่า 4 พันล้านบาท ผลักดันให้ดัชนีพุ่งทะยานเกือบ 20 จุด

การที่หุ้นดีดตัวกลับช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเพราะแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติโดยตรง ไม่ได้เกิดจากมีปัจจัยเชิงบวกเข้ามากระตุ้น หรือปัจจัยพื้นฐานตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงสู่แนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้น หุ้นอาจกลับสู่ความผันผวนได้ถ้าต่างชาติหยุดซื้อ

ตลาดหุ้นไม่ควรอยู่ภายใต้กำมือของนักลงทุนต่างชาติ หรือถูกชี้นำจากแรงซื้อหรือแรงขายของต่างชาติเท่านั้น แต่จะต้องทำให้นักลงทุนในประเทศมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทาง

การเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนในประเทศเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ แต่ความเชื่อมั่นสูญสิ้นลงทุกที เพราะหน่วยงานที่กำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็น ก.ล.ต.หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่มีมาตรการที่เด็ดขาด ฉับไวในการกำกับบริษัทจดทะเบียนที่ทุจริต

ไร้ประสิทธิภาพในการปกป้องและแก้ปัญหานักลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมโกงของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน

และไม่เคยมีมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นหรือเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนแต่อย่างใด ได้แต่นั่งดูดัชนีหุ้นดิ่งลงเหว

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ประกาศห้าม SHORT SELL และลงโทษ 2 โบรกเกอร์ต่างชาติยักษ์ใหญ่ ในความผิดทำ NAKED SHORT

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ควบคุมการทำ SHORT SELL ของเฮดจ์ฟันด์

โบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ของจีนประกาศห้าม SHORT SELL เพื่อหยุดยั้งธุรกรรมที่ซ้ำเติมตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ได้ผลตอบรับที่ดีในการห้าม SHORT SELL โดยดัชนีหุ้นดีดตัวขึ้น เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดในการระงับธุรกรรม SHORT SELL และ ROBOT TRADING

การระงับธุรกรรม SHORT SELL และการยกเลิก ROBOT TRADING ผลในเชิงรูปธรรมสำหรับหรับการกระตุ้นตลาดหุ้นอาจมีไม่มาก แต่ผลด้านจิตวิทยาเกิดขึ้นทันที

เพราะนักลงทุนจะเกิดความรู้สึกว่าผู้บริหารหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหุ้นยังตระหนักถึงความทุกข์ร้อนของนักลงทุน และดิ้นรนหามาตรการช่วยเหลือ

ไม่ใช่ปล่อยให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาพตายซาก ปล่อยให้นักลงทุนตายหมู่ โดยไม่มีมาตรการอะไรกระตุ้นแม้แต่มาตรการเดียว

รัฐบาลนายเศรษฐา ลงแส้ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์มาตลอด กำชับแก้ปัญหาโกงในตลาดหุ้น เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา

แต่วันนี้ยังไม่มีมาตรการใดที่จะเรียกความเชื่อมั่นการทำงานของทั้ง 2 หน่วยงานนี้

ดัชนีที่ตีกลับแรงเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนก็ไม่ใช่ผลงานของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เป็นเพราะต่างชาติไล่ซื้อหุ้น

ถ้าต่างชาติไม่ซื้อหุ้นต่อ ตลาดหุ้นคงกลับไปสู่สภาพใกล้สิ้นใจเหมือนเดิม พร้อมกับนักลงทุนที่สิ้นหวังกับ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์