หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -2.72 จุด นักวิเคราะห์เผย ตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวกและลบ และอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ปรับตัวขึ้น และค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขณะที่ในประเทศยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนมองกรอบการลงทุนที่ 1,370-1,360 จุด และแนวต้าน 1,390-1,400 จุด แนะติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 18 มกราคม 2567 ปรับตัวลดลง -2.72 จุด หรือ 0.20% โดยปิดตลาดที่ 1,377.93 จุดม มูลค่าการซื้อขาย 50,984.88 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ดัชนีปรับตัวแกว่งไซด์เวย์รุนแรงสลับทั้งในแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวงขึ้นสูงสุดที่ 1,387.53 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,374.08 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 243 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 184 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 223 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,650.18 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,412.28 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +67.04 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า +170.86 ล้านบาท
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง -3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,379.34 ลบ.
2.AOT ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,173.83 ลบ.
3.PTT ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,832.17 ลบ.
4.KBANK ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง -2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,520.01 ลบ.
5.BDMS ปิดที่ 27.00 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,192.56 ลบ.
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GPSC ปิดทึ่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 4.89%
2.ADVANC ปิดที่ 215.00 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาทหรือ 2.71 %
3.SAPPE ปิดที่ 85 บาท เพิ่มขึ้น 1.75บาท หรือ 2.10%
4.MEGA ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.66%
5.AEONT ปิดที่ 154 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.89%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBl ปิดที่ 145 บาท ลดลง 3. บาทหรือ 2.03 %
2.KCE ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 4.55%
3.KBANK ปิดที่ 129 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.53 %
4.HANA ปิดที่ 48.75 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 2.99%
5.PTTEP ปิดที่ 146.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.01%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,865.12 จุด ลดลง -4.73 จุด หรือ -0.25% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 840.80 จุด ลดลง -2.77 จุด หรือ -0.33% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 410.73 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด หรือ 0.04%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ และอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาผสมผสาน หรือเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ตอบรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้น และค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า
ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง หลังสหรัฐรายงานตัวเลขยอดค้าปลีก ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 55% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% จากก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักกว่า 60%
"ในประเทศยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน แนะให้ติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ โดยมองแนวรับไว้ที่ 1,370-1,360 จุด และแนวต้าน 1,390-1,400 จุด" นายอภิชาติ กล่าวทิ้งท้าย