xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ระดับ 34.99 แกว่งตัว sideway ใกล้ระดับ 35.00

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (12 ม.ค.) ที่ระดับ 34.99 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.07 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.15 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนพอสมควร (แกว่งตัวในช่วง 34.96-35.23 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าต่อเนื่อง หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด หนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีจังหวะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนราคาทองคำย่อตัวลงหลุดโซนแนวรับล่าสุด อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้ง หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความร้อนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกัน ทั้งเงินบาทและราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากผลการประมูลบอนด์ 30 ปี ที่ยังสะท้อนความต้องการของผู้เล่นในตลาดที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงรายงานงบดุลของเฟดล่าสุดที่ยังคงสะท้อนว่า สถาบันการเงินในสหรัฐฯ ยังมีความต้องการสภาพคล่องผ่านโครงการ Bank Term Funding

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทหลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ อาจชะลอลง และเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่ำกว่าระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ได้บ้าง หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเงินบาทอาจได้แรงหนุนคล้ายกับช่วงเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ทว่า เราประเมินว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในรอบนี้ อาจไม่ได้น่ากังวลมากจนทำให้เกิดภาพคล้ายกับช่วงแรกของสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันเงินบาทอาจยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง หากบรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าทยอยขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้น ท่ามกลางบรรยากาศในตลาดการเงินที่อาจยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง

ท่ามกลางปัจจัยฝั่งแข็งค่าและอ่อนค่าดังกล่าว ทำให้เรามองว่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ sideway ใกล้ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอาจยังไม่ได้อ่อนค่าไปไกลมากนัก และเรายังคงประเมินโซน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญในช่วงนี้ ขณะที่การแข็งค่าต่อเนื่องอาจเกิดขึ้นได้ยากหากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน ทำให้โซน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ อาจเป็นแนวรับสำคัญของเงินบาทในช่วงนี้

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งจีน ทั้งอัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดการค้าระหว่างประเทศ (ยอดการส่งออกและนำเข้า) เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาสัญญาณอัตราเงินเฟ้อ ผ่านรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟด หลังตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคม
กำลังโหลดความคิดเห็น