หุ้นไทยปิดบวก +4.47 จุด นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นสวนทางตลาดภูมิภาค โดยมีแรงซื้อเข้าในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า,สื่อสาร และ ค้าปลีก ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,410 จุด และแนวรับที่ 1,400 จุด และจับตาตัวเลข PCE ของสหรัฐ
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.47 จุด หรือ +0.32% โดยปิดตลาดที่ 1,404.84 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,760.88 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้แกว่งตัวในทิศทางขาลบช่วงเช้า ก่อนที่จะปรับตัวดีดขึ้นมาในช่วงบ่ายและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,407.87 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,394.28 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 297 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 191 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 160 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +479.2 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -244.08 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -117.16 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -118.01 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,535.02 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
2.PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,720.48 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 2.75 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,603.29 ล้านบาท ปิดที่ 91.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,493.17 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,274.50 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 218.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 1.40%
2.CBG ปิดที่ 82.75บาท เพิ่มขึ้น 2.25บาท หรือ 2.80%
3.KCE ปิดที่ 56.75บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 2.71%
4.BBL ปิดที่ 152.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 0.99%
5.HANA ปิดที่ 54.00บาท เพิ่มขึ้น1.25บาท หรือ 2.37%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 294.00บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ1.01%
2.PTTGC ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ6.79%
3.EGCO ปิดที่ 127.50บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 0.78%
4.PTTEP ปิดที่ 146.50บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.68%
5.BCP ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 0.75บาท หรือ 1.69%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,929.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด หรือ 0.24% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 870.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด หรือ 0.18% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 407.72 จุด เพิ่มขึ้น 2.33 จุด หรือ 0.57%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดขึ้นสวนทางตลาดภูมิภาค โดยมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มโรงไฟฟ้า และ กลุ่มสื่อสาร รับประโยชน์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับลง ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้ามีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ GUNKUL เซ็นสัญญาขายไฟฟ้ากับกฟผ. และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ได้แรงหนุนต้นทุนก๊าซปรับลง รวมทั้งกลุ่มค้าปลีก คาดหวังผลดีของมาตรการ Easy e-Receipt เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.67
"ทางเทคนิคดัชนียืนเหนือ 1,400 จุดได้แล้ว ส่งผลให้พรุ่งนี้คาดจะขยับขึ้นไปต่อได้ ขณะที่นักลงทุนรอติดตามข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย. ของสหรัฐ โดยสัปดาห์หน้าคาดปัจจัยภายนอกเบาบางลง เนื่องจากต่างประเทศเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส โดยมองกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,410 จุดและแนวรับที่ 1,400 จุด" นายณัฐพล กล่าว