xs
xsm
sm
md
lg

ต่างชาติย้ายฐานมาไทย "พรอสเพคฯ" ปิดดีลผู้เช่าใหม่ใน BFTZ เกินเป้าทะลุ 2 แสน ตร.ม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ (PD) ในเครือมั่นคงเคหะการ ประกาศข่าวดีส่งท้ายปี 2566 เซ็นสัญญาลูกค้าใหม่ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน พื้นที่เช่ารวมกันกว่า 2 แสน ตร.ม. ใน 7 โครงการ เผยโครงการ BFTZ 3 ถ.บางนา-ตราด กม.19 และโครงการ BFTZ 4 บางปะกง ทั้ง 2 โครงการมีจุดแข็งสำคัญด้านเขตปลอดอากร

ผลตอบรับครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ความต้องการใช้งานคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าพื้นที่บางนา-ตราดไม่เคยลดลง อีกทั้งพื้นที่ EEC ยังสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ประกาศพร้อมเดินหน้าเต็มสูบขยายโครงการใหม่รองรับดีมานด์ลูกค้าทุกอุตสาหกรรม

น ส.รัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ปี 2566 ถือเป็นปีที่พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ มาแรงและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของการขยายโครงการล่าสุด BFTZ 7 ถ.บางนา-ตราด กม.10 ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนงาน แต่สามารถเติมผู้เช่าชั้นนำในกลุ่มผู้ให้บริการโลจิสติกส์และธุรกิจอื่นๆ เต็ม 100% เป็นที่เรียบร้อยภายใน 1 ปี ความสำเร็จของทุกโครงการเกิดขึ้นบนรากฐานที่มั่นคงของบริษัท ทั้งทำเลยุทธศาสตร์ มีพื้นที่ Free Zone และบริการ One Stop Service ครบวงจร ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารสำเร็จรูปแบบ Ready Built คุณภาพเกรด A ที่ทยอยก่อสร้างช่วงโควิด ภายหลังเปิดประเทศจึงขยายโครงการและเซ็นสัญญาผู้เช่ารวดเร็ว รองรับความต้องการของลูกค้าให้พร้อมใช้งานได้ทันที

เนื่องจากปัจจุบันอินไซต์ของนักลงทุนต่างชาติจะตัดสินใจเช่าเร็วขึ้น เมื่อเข้ามาดูพื้นที่โครงการจริงแล้วสนใจจะตกลงเซ็นสัญญาทันที เพราะหากยืดระยะเวลาออกไปอาจไม่มีที่เช่าในทำเลที่ต้องการหลงเหลืออยู่ โครงการที่ปิดดีลพื้นที่เช่ามากที่สุดจะเป็น โครงการ BFTZ 3 ถ.บางนา-ตราด กม.19 พื้นที่เช่ารวมของลูกค้าใหม่ประมาณ 50,000 ตร.ม. รองลงมา ได้แก่ โครงการ BFTZ 4 บางปะกง และโครงการ BFTZ 5 วังน้อย ขณะเดียวกันยังอยู่ในระหว่างเจรจาสัญญาอาคาร Built-to-Suit อยู่อีก 2-3 ราย

ภาพรวมตลอดปี PD ทำผลงานได้โดดเด่น ผุดโครงการใหม่ในทำเลเดิมบางนา-ตราด พร้อมเสริมความแข็งแกร่งขยายไปยังจุดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์อย่าง บางปะกง และวังน้อย ตอกย้ำตำแหน่งตัวจริงของวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ด้วยอัตราการเช่าเฉลี่ยรวมทุกโครงการ (Occupancy Rate) สูงกว่า 90% และรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านอัตราการต่อสัญญา (Renewal Rate) ปี 2566 แตะระดับ 90% ดันกราฟพุ่งต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 เป็นต้นมา

ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรีประเมินว่า การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของภาคการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ธุรกิจคลังสินค้ายังได้ปัจจัยบวกจากภาคท่องเที่ยว (คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยที่ระดับ 42 ล้านคน ภายในปี 2568) ช่วยกระตุ้นความต้องการอุปโภคบริโภคสินค้า ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคการผลิต โลจิสติกส์และการลงทุนในประเทศ สำหรับพื้นที่เช่ารวมทุกโครงการภายใต้การจัดการของ PD ประมาณ 1,000,000 ตร.ม. ขณะนี้มี 2 จาก 7 โครงการที่มีผู้เช่าเต็ม 100% ไฮไลต์โครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างโครงการ BFTZ 4 บางปะกง พื้นที่เช่า 200,000 ตร.ม. เป็นโครงการเดียวของบริษัทที่อยู่ในพื้นที่ EEC เริ่มลงเสาก่อสร้างเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้าเซ็นสัญญาจองพื้นที่ต่อเนื่องแม้ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า 

ซึ่งกลุ่มธุรกิจของลูกค้าส่วนใหญ่ ได้แก่ ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจอาหาร ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สำหรับประเภทอาคารที่ได้รับความนิยมภายในโครงการ BFTZ 4 จะเป็นอาคารโรงงาน เพราะตั้งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรรม ดังนั้น กลุ่ม Supplier ในสายการผลิตจึงกระจายมาเช่าอาคารในโครงการใกล้เคียง

“เป้าหมายต่อไปเราจะเดินหน้าเร่งก่อสร้างโครงการที่กำลังพัฒนาให้แล้วเสร็จ ไปพร้อมกับการขยายโครงการใหม่บนทำเลศักยภาพที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แนวโน้มธุรกิจผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานสะอาด คาดว่าจะยังมีผู้ประกอบการต่างชาติย้ายฐานการผลิตเข้ามาขับเคลื่อนตลาด Industrial Property ให้คึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากประเทศจีน ที่เริ่มขยายฐานมาประเทศไทย ทำให้เรามีโอกาสต่อไปในอนาคต อีกส่วนที่เห็นภาพชัดเจน คือ ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อธุรกิจ EV บูม กลุ่มธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับอานิสงค์ตามมา รวมถึงชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ แบตเตอรี่ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารนิยมมาใช้พื้นที่ในโครงการ BFTZ 1 ถ.บางนา-ตราด กม.23 เช่นกัน ด้วยทำเลที่เอื้อต่อการขนส่ง ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นทำให้รองรับธุรกิจอาหารได้เป็นอย่างดี” น ส.รัชนี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น