KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) อาคารสำนักงานให้เช่าพรีเมียมเกรดเอ ในเครือสหพัฒน์ คว้ารางวัล Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและเอเชีย ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร พร้อมเปิดบริการปลายปี 2567
น.ส.ธนินธร โชควัฒนา ผู้อำนวยการโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ โดยบริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด กล่าวถึงโปรเจกต์อาคารสูงแห่งแรกของเครือสหพัฒน์ว่า คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ เป็นพรีเมียมออฟฟิศเกรดเอ อาคารไอคอนิกที่สูงที่สุดในย่านพระราม 3 ด้วยความสูง 52 ชั้น มีพื้นที่รวม 44,500 ตร.ม. ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพเชื่อมต่อพื้นที่ CBD และแหล่งอุตสาหกรรมรอบนอก เดินทางสะดวกด้วยที่ตั้งที่ใกล้จุดตัดทางด่วนถึง 3 เส้นทาง มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและเอเชีย โดยมาตรฐานดังกล่าวช่วยสนับสนุนเป้าหมายของการเป็นอาคารอัจฉริยะ ที่เอื้อต่อการทำงานและไลฟ์สไตล์ที่ดีอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการพัฒนาอาคารภายใต้แนวคิด The Spirit of Synergy ที่บริษัทและพนักงานที่มาอยู่ที่นี่จะสามารถ เติบโตไปด้วยกันได้อย่างมีความสุข ทั้งอยู่ร่วมกับชุมชนและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
เพื่อสะท้อนแนวคิดดังกล่าว โครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ประกอบด้วยทีมออกแบบและก่อสร้างระดับโลก ทั้งบริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) และ Mott MacDonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลก ผู้ออกแบบสะพานภูมิพล ร่วมกันออกแบบตึกให้เป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล
คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ รองรับแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคารให้มี Quality Time ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี ระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 โดยสามารถกรองฝุ่นละอองได้ถึง 0.3 micron ได้ถึง 90% และฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียด้วย UV-C
สร้างเวลาพักผ่อนให้มีคุณค่าด้วย Canteen ที่ตั้งอยู่ชั้น 3 ซึ่งอยู่ระดับเดียวกับสะพานภูมิพล พื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อนและทำกิจกรรม 1,600 ตร.ม. นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่รีเทลกว่า 4 ชั้น ตอบโจทย์ไลฟสไตล์คนเมือง และ Sky Lounge & Restaurant ชั้นดาดฟ้า
อาคารพรีเมียมเกรดเอ ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงาน 34,655 ตร.ม. ที่จอดรถ 867 คัน และ EV Charger 31 จุด มีพื้นที่ส่วนกลางระดับพรีเมียม (Business Facilities) อาคาร Smart Building ใช้เทคโนโลยีจัดการตั้งแต่การเข้าออกที่เป็นระบบ Hologram ลิฟต์ระบบ Destination Control System การมี Application ช่วยจัดการด้าน Tenent Service ตลอดจน Smart Dashboard มอนิเตอร์การใช้พลังงานต่างๆ ในตึก
สามารถเชื่อมต่อดิจิทัล เดินหน้าสู่การได้รับการรองรับ "WiredScore Platinum" ที่พร้อมให้บริการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐาน และนวัตกรรม เพื่อรองรับเทคโนโลยีทันสมัย และยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต
เป็นอาคาร Pilot แรกที่ก่อสร้างตามหลักการของ Circular Economy Construction Industry ของเครือข่าย CECI ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในกระบวนการก่อสร้าง เพื่อลดขยะจากงานก่อสร้าง และลดการทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังได้รับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Gold
ปัจจุบัน โครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ก่อสร้างไปแล้ว 62% เตรียมเปิดในช่วงปลายปี 2567