ธนาคารกรุงไทย (KTB) ระบุตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้คนไทยมีโอกาสลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental Social Governance : ESG) รวมถึงได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นผ่านกองทุนจากกรุงไทย ที่คว้าเรตติ้งหุ้นยั่งยืนระดับสูงสุด AAA จาก SET ESG Rating ย้ำภาพลักษณ์ธนาคารยั่งยืน ที่ส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ
กองทุน Thai ESG เน้นลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนด โดยนักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และต้องลงทุน 8 ปีเต็มแบบวันชนวัน และเมื่อนับรวมกับกองทุน RMF กองทุน SSF และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ แล้ว จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ถึง 600,000 บาท
ธนาคารกรุงไทยแนะนำกองทุน Thai ESG มีให้เลือก 3 นโยบาย ตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า
1.กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (KTAG70/30-ThaiESG) เป็นกองทุนผสม เน้นลงทุนในหุ้นที่มี ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV และตราสารหนี้ เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV บริหารแบบ Active สามารถปรับพอร์ตให้เหมาะสมได้ทุกสถานการณ์ ความเสี่ยงกองทุนระดับ : 5 เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายลงทุนและไม่อยากลงทุนในหุ้น 100% และมุ่งหวังผลตอบแทนที่สูงดัชนีอ้างอิง
2.กองทุนเปิดกรุงไทย ESG50 (KTESG50-ThaiESG) เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ประมาณ 50 ตัวแรกที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด ที่อยู่ในดัชนี SETESG ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและอยู่ใน Universe ของบริษัทจัดการ เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV บริหารแบบ Active ความเสี่ยงกองทุนระดับ : 6 จุดเด่นคือ เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความความมั่นคงและมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุน Thai ESG ที่เน้นหุ้นขนาดใหญ่และมุ่งหวังผลตอบแทนที่สูงดัชนีอ้างอิง
3.กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (KTAG-ThaiESG) เน้นลงทุนหุ้นที่มี ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV บริหารแบบ Active ความเสี่ยงกองทุนระดับ : 6 จุดเด่นคือมีกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นสามารถลงทุนได้ในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงและสร้างโอกาสเติบโตผ่านหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและมุ่งหวังผลตอบแทนที่สูงดัชนีอ้างอิง
ทั้ง 3 กองทุนจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 8-18 ธันวาคม 2566 ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท พิเศษ สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน Thai ESG ที่ร่วมรายการจาก บลจ.กรุงไทย ครบทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน KTSTPLUS-A มูลค่า 100 บาท
ธนาคารกรุงไทยได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ในระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.ทั้งนี้ SET ESG Ratings ประจำปี 2566) โดยประเมินจากการดำเนินงานและการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ในด้าน ESG โดยเฉพาะนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยพัฒนาแบบประเมินความยั่งยืนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและแนวโน้ม ESG ที่สำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับสากลซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของธนาคารกรุงไทย ที่ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างคุณค่า ตอบโจทย์ลูกค้า สู่ความยั่งยืน” และสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของธนาคารในทุกมิติเติบโตไปพร้อมกับสังคม ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน