บมจ.สิทรอน เพาเวอร์ (SITRON) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 18,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO
วัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อลงทุนในโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างเอกชนกับเอกชน (Private PPA) และเพื่อชำระคืนเงินกู้
SITRON เป็นหุ้นตัวที่ 2 ที่เข้าซื้อขายในกระดาน LiVEx เปิดเทรดวันแรกในวันที่ 14 ธ.ค.65
บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งประกอบด้วย การให้บริการด้านวิศวกรรม จัดหาอุปกรณ์ ก่อสร้าง และติดตั้ง (EPC) และให้บริการด้านวิศวกรรม ก่อสร้างและติดตั้ง (Balance of System หรือ BOS) ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป สถานประกอบการพาณิชย์ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย และสถานที่อื่นๆ เช่น โรงพยาบาล สถานที่ราชการ เป็นต้น
โดยครอบคลุมการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษาและคำนวณความคุ้มค่า การสำรวจพื้นที่ก่อนติดตั้ง การออกแบบทางวิศวกรรม การขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง การจัดหาอุปกรณ์ การก่อสร้างและติดตั้ง จนถึงการส่งมอบงานให้แก่ลูกค้า และการให้บริการบำรุงรักษา (O&M) ภายหลังการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าแล้วเสร็จ รวมถึงบริษัทมีการขยายธุรกิจไปสู่การลงทุนในโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Private PPA
บริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ผู้ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง (Self-consumption) (2) ผู้พัฒนาโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (ผู้พัฒนาโครงการ) และ (3) กลุ่มลูกค้าอื่นๆ
ตั้งแต่ปี 60-65 บริษัทมีจำนวนเมกะวัตต์ติดตั้งแล้วเสร็จในแต่ละปีเติบโตสูงจาก 0.83 เมกะวัตต์ เป็น 42.60 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound annual growth rate หรือ CAGR) เท่ากับร้อยละ 119.82 ต่อปี และในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.66 บริษัทมีจำนวนเมกะวัตต์ที่ติดตั้งแล้วเสร็จเท่ากับ 30.02 เมกะวัตต์
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 90 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 90 ล้านหุ้น เป็นทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 70 ล้านบาท หรือ 70 ล้านหุ้น โดยมีโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 ส.ค.66 บริษัท เอ็น-ลาร์จ เอ็นเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 24 ล้านหุ้น คิดเป็น 33.33% ภายหลัง IPO จะลดเหลือ 26.67% น.ส.ประภารัตน์ ตังควัฒนา 11.76 ล้านหุ้น คิดเป็น 16.33% จะลดเหลือ 13.07% คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช 7.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% จะลดเหลือ 8.00%
น ส.อรอุมา สีแสงทอง 6 ล้านหุ้น คิดเป็น 8.33% จะลดเหลือ 6.67% นายพีรณัฏฐ์ ตันติพจน์ 3.84 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.33% จะลดเหลือ 4.27% นางเสาวลักษณ์ พิเชษฐวณิชย์โชค 2.4 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.33% จะลดเหลือ 2.67% นายวิวัฒน์ วิฑูรน์เธียร 2.16 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.00% จะลดเหลือ 2.40% นายธนพล สีแสงทอง 2 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.78% จะลดเหลือ 2.22% นายสริศ พัฒนะเมลือง 1.65 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.29% จะลดเหลือ 1.83% ผู้ถือหุ้นอื่นๆ 10.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 15.26% จะลดเหลือ 12.21%
สำหรับบริษัท เอ็น-ลาร์จ เอ็นเนอร์ยี จำกัด เป็น Holding Company ที่มี น.ส.พนิตพิมพ์ สิทธิพงศ์ ถือหุ้น 50% และ น.ส.ณ นุต สิทธิพงศ์ ถือหุ้น 45% ซึ่งเป็นบุตรของนายณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ขณะที่นายภรัถ ภิญญาวัธน์ ลูกเขย ถือหุ้น 5%
ผลประกอบการในช่วงปี 63-65 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 และ 66 บริษัทมีรายได้รวมจากสัญญาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า การให้บริการ และการขายเท่ากับ 323.47 ล้านบาท 351.10 ล้านบาท 558.87 ล้านบาท 289.72 ล้านบาท และ 370.72 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 6.69 ล้านบาท 15.44 ล้านบาท 16.76 ล้านบาท 4.58 ล้านบาท และ 21.47 ล้านบาท ตามลำดับ
ณ วันที่ 30 ก.ย.66 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 515.99 ล้านบาท หนี้สินรวม 360.03 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 155.95 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท