xs
xsm
sm
md
lg

TTA จับมือภาครัฐผนึกกำลังช่วยเหลือเด็กที่โดนบูลลี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐผนึกกำลังช่วยเหลือเด็กที่โดนบูลลี่ ด้วยแอปพลิเคชัน “Buddy Thai” กับสโลแกน “โดนบูลลี่ มาหาบัดดี้”


บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “Buddy Thai” แพลตฟอร์มช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่โดนบูลลี่ในสังคมไทย ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และเพจ Because We Care ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง พม. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกิจกรรม “BuddyThai โดนบูลลี่ มาหาบัดดี้” ในภาคใต้ภายใต้โครงการ “CYC Plus รู้รักในวัยเรียน”
ทั้งนี้ กิจกรรมนี้จัดขึ้นด้วยความเจตนารมณ์และร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด และโดยความตั้งใจของ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปลุกจิตสำนึกและรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนตระหนักรู้เรื่องพฤติกรรมการกลั่นแกล้งรังแก (Bully) การรู้เท่าทันอารมณ์ และการป้องกันการกระทำความรุนแรงในทุกมิติ รวมถึงส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ และรู้จักช่องทางการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์การถูกกลั่นแกล้งรังแก (Bully) ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน “BuddyThai”
โดยกิจกรรม “BuddyThai โดนบูลลี่ มาหาบัดดี้” นี้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของโครงการ “CYC Plus รู้ รักในวัยเรียน” ที่ต้องการมุ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันการกระทำความรุนแรง และสร้างการรับรู้ที่ดีในการป้องกันตนเองและการช่วยเหลือผู้อื่น ผ่านการอบรมและการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ที่จะช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชนให้ตระหนักรู้ถึงปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจได้
สำหรับแอปพลิเคชัน “BuddyThai” เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัท และกรมสุขภาพจิต โดยสถาบันสุขภาพจิตเด็กและเยาวชนและวัยรุ่นราชนครินทร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่โดนรังแกหรือโดนบูลลี่ในโรงเรียนและโดนบูลลี่ผ่านโซเชียลมีเดีย และเพื่อบรรเทาปัญหาการฆ่าตัวตายในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสังคมไทย โดยแอปพลิเคชัน “BuddyThai” มีคุณสมบัติและฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาแก่เด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ 3 ประการ คือ
มีปุ่มขอคำปรึกษากับนักจิตวิทยาได้โดยตรง เพื่อให้เด็กและเยาวชน สามารถกดปุ่มนี้เพื่อติดต่อถึงสายด่วน 1323 ของกรมสุขภาพจิต หรือเลือกแชตกับนักจิตวิทยาผ่าน Facebook ของกรมสุขภาพจิต ผ่านนักจิตวิทยาและอาสา LoveCare Station ของมูลนิธิแพธทูเฮลท์ และผ่าน Facebook ของ BuddyThai App ก็ได้เช่นกัน

มีแบบประเมินตนเอง ด้านความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) รวมถึงมีชุดความรู้และแบบฝึกหัดทักษะการใช้ชีวิต ที่จะทำให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ว่าจะต้องรับมือกับสถานการณ์ในชีวิตอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อโดนบูลลี่ พร้อมมีคำแนะนำดีๆ จากนักจิตวิทยาที่เชื่อถือได้

มีระบบบันทึกข้อมูลอารมณ์ในแต่ละวัน เด็กและเยาวชนสามารถเข้ามาบันทึกอารมณ์ของตัวเองได้ทุกวันและวันละหลายๆ ครั้ง และใส่เหตุผลได้ด้วย ข้อมูลอารมณ์จะบันทึกเป็นสถิติรายสัปดาห์และรายเดือน ทำให้เด็กและเยาวชนเช็กได้ว่า ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ตนเองมีอารมณ์หนักไปทางด้านใด เพราะอะไร โดยมีเทคนิคการจัดการอารมณ์ให้เด็กอ่านด้วยตนเอง ในขณะที่หากพบว่าเด็กและเยาวชนคนไหนบันทึกว่า มีอารมณ์เครียด ซึมเศร้าติดต่อกันเป็นอาทิตย์และมีแนวโน้มคิดฆ่าตัวตาย ทีม admin จะ Monitor เด็กและเยาวชนคนนี้อย่างใกล้ชิด และสามารถแจ้งไปยังโรงเรียนและคุณครู หรือนักจิตวิทยาสายด่วนในการติดต่อเชิงรุกได้

ปัจจุบัน แอปพลิเคชัน “BuddyThai” ได้นำร่องให้นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครไปก่อนหน้านี้ และให้ดาวน์โหลดใช้งาน พร้อมแชร์ประสบการณ์ให้ทีมพัฒนาแอปพลิเคชันนำไปวางแผนปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.buddy4thai.com


กำลังโหลดความคิดเห็น