xs
xsm
sm
md
lg

MASTER ลุยซื้อกิจการใหม่อีก 5 แห่ง เสริมแกร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"มาสเตอร์ สไตล์" ซื้อกิจการใหม่อีก 5 แห่ง หลังปิดดีลเข้าลงทุนในธุรกิจให้บริการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง คลินิกเสริมความงาม ธุรกิจบริการ แย้มก่อนสิ้นปี 2566 มีลุ้นประกาศดีลใหญ่อีก 1 ดีล หวังเติบโตไปด้วยกัน พร้อมมั่นใจทุกดีลที่เกิดขึ้นสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน ระบุการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้ เสริมสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในกิจการซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง คลินิกเสริมความงาม และธุรกิจบริการ โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวนทั้งสิ้น 5 บริษัท โดย 1.การเข้าลงทุนในบริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด (บจก.ทวิงเกิ้ล สตาร์) สัดส่วน 40% โดยเป็นบริษัทประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ผลิตสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ 2.การเข้าลงทุนในบริษัท ทีวายพี เมดิคัล จำกัด (บจก.ทีวายพี) สัดส่วน 40% ซึ่งดำเนินธุรกิจ TYP Clinic เปิดให้บริการ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

3.เข้าลงทุนในบริษัท ซีเอ็มเอ็นเอช 2012 จำกัด (บจก.ซีเอ็มเอ็นเอช) สัดส่วน 40% โดยเป็น “ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ หรือ Chiangmai Nursing Home care” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ 4.การเข้าลงทุนในบริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด (บจก.ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์) จำนวน 40% เป็นคลินิก ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านปลูกผมไร้รอยแผล ศัลยกรรมความงาม เลเซอร์ต่างๆ และคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม และ 5.การเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด (บจก.บีอีคิว) จำนวน 35% ซึ่งประกอบธุรกิจคลินิกปลูกผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร

นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวเสริมว่า การเข้าลงทุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับบริษัท และเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลงทุนของบริษัทที่วางแผนลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท ส่งผลทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุนซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท และทำให้บริษัทสามารถขยายเครือข่ายในการให้บริการและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

“พวกเรา MASTER ผสานจิ๊กซอว์ตามแผนที่เคยประกาศไว้ ซึ่งทำให้กลุ่ม MASTER จากนี้พร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยมุ่งการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยการนำกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ด้วยนโยบายลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัทไม่เกิน 40%” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว

น.ส.ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แห่ง MASTER กล่าวว่า บริษัทประกาศแผนซื้อกิจการจำนวน 5 ดีล ถือว่ามากกว่าที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ที่คาดจะมีดีลใหม่อย่างน้อยอีก 3 ดีล ทำให้ปัจจุบัน MASTER มีดีลซื้อกิจการแล้วทั้งสิ้น 9 ดีล โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากจะส่งผลบวกต่อบริการของทั้งกลุ่ม ช่วยให้เกิด Economy of Scale ในเรื่องของเวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นส่วนสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บจก.ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำนวนไม่เกิน 4,721 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก.ทวิงเกิ้ล สตาร์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 64,941,176.47 บาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บจก.ทีวายพี จำนวน 60,976 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก.ทีวายพี รวมทั้งสิ้น 73,700,000 บาท ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งใหม่เพื่อรับโอนกิจการคลินิกเสริมความงามซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายใต้ชื่อ “TYP Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านเสริมจมูก ตาสองชั้น ปรับรูปหน้า โดยเป็นการรับโอนทรัพย์สินทั้งหมดที่ใช้การประกอบกิจการซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเครื่องมือแพทย์ สิทธิการเช่า ลูกค้า และพนักงาน เพื่อให้ บจก.ทีวายพี สามารถดำเนินกิจการคลินิก “TYP Clinic” ได้ต่อเนื่อง

อีกทั้งที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจก.ซีเอ็มเอ็นเอช จำนวน 6,667 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก.ซีเอ็มเอ็นเอช รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000,000 บาท ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ภายใต้ชื่อ “ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ หรือ Chiangmai Nursing Home care” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีความชำนาญด้านดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยทางระบบสมองและประสาทไขสันหลัง ให้ได้รับการดูแลฟื้นฟูอย่างมีคุณภาพมาตรฐานตามหลักการแพทย์ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การทำกายภาพบำบัด รวมถึงกิจกรรมบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยทางระบบประสาท สามารถช่วยเหลือตัวเอง และกลับคืนสู่ครอบครัว และสังคมได้อย่างเหมาะสม

น.ส.ลภัสรดา กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจก.ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ จำนวน 133,333 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก.ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 96,000,000 บาท ซึ่งเป็นกิจการคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านปลูกผมไร้รอยแผล ศัลยกรรมความงาม และเลเซอร์ต่างๆ โดยเป็นการรับโอนทรัพย์สินทั้งหมดที่ใช้การประกอบกิจการ ลูกค้า และพนักงาน ภายหลังการเข้าลงทุนของบริษัท บจก.ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ จะเข้าประกอบกิจการคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “The Skin Clinic” ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 7 สาขาในกรุงเทพมหานคร รวมถึงโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมผม ภายใต้ชื่อ “ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล”

“MASTER เข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด จำนวน 35% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ของ บจก.บีอีคิว รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 183,750,000.00 บาท ทั้งนี้ บจก.บีอีคิว เป็นบริษัทประกอบกิจการคลินิกให้บริการด้านการปลูกผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร โดยมีความชำนาญด้านการปลูกผมครบวงจร ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเข้าลงทุนในบริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2567 และคาดว่าจะเข้าลงทุนในบริษัท บีอีคิว จำกัด แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2567” น.ส.ลภัสรดา กล่าว

น ส.ลภัสรดา กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าลงทุนในกิจการทั้ง 5 บริษัทจะใช้เงินที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท โดยนอกเหนือจากการได้รับผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนและจากเงินปันผลจากผลประกอบการของแต่ละกิจการในอนาคตแล้ว การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บจก.ทวิงเกิ้ล สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการด้านผลิตสื่อโฆษณาจะช่วยส่งเสริมการเผยแพร่การบริการของบริษัทให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับการเข้าร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับด้านสุขภาพและคลินิกเสริมความงามดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลงทุนของบริษัทที่จะลงทุนในธุรกิจที่สามารถส่งเสริมและเป็นประโยชน์กับบริษัท ธุรกิจหลักของบริษัท การร่วมลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและรูปแบบการให้บริการเสริมความงามให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น