xs
xsm
sm
md
lg

แรงซื้อหนุนหุ้นไทยไม่ขึ้นปิด -4.01 จุด โบรกฯ แนะจับตา ครม.เคาะมาตรการหนุนศก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดลบ 4.01 จุด แม้จะมีแรงซื้อเข้าประคองดัชนีภาคบ่ายก่อนปิดตลาด นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลง ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน และกระแสข่าวสายการบินจีนยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยในเดือน ธ.ค.66 - ม.ค.67 กว่า 40% ทำหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวซึมลง รวมถึงกลุ่มค้าปลีกที่เชื่อมโยงกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวด้วย มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,400 จุด และแนวรับที่ 1,390 จุด แนะจับตา ครม.เคาะมาตรการหนุนเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 27 พ.ย. 2566 ปรับตัวลดลง -4.01 จุด หรือ -0.29% โดยปิดตลาดที่ 1,393.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,302.87 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายวันนี้ดัชนีปรับตัวลงแรงช่วงแรก ก่อนฟื้นกลับมาในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,397.88 จุด ในทิศทางขาลงที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,385.33 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 187 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 198 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 268 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +613.27 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +191.98 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -349.13 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -456.12 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,905.06 ล้านบาท ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,413.57 ล้านบาท ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,223.67 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,033.73 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,002.86 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่219.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 0.92%
2.GPSC ปิดที่45.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 2.27%
3.BTG ปิดที่23.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90บาท หรือ 4.07%
4.THG ปิดที่62.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 1.21%
5.SCB ปิดที่100.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 0.76%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่155.50บาท ลดลง 3.50บาท หรือ 2.20%
2.SCC ปิดที่290.00บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.68%
3.AOT ปิดที่61.00บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 2.40%
4.CPN ปิดที่66.00บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 1.86%
5. ADVANC ปิดที่ 216.00บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 0.46 %

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,907.17 จุด ลดลง -4.01 จุด หรือ -0.21% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 860.75 จุด ลดลง -2.07 จุด หรือ -0.24% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 400.06 จุด ลดลง -0.12 จุด หรือ -0.03%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องตลาดภูมิภาค โดยช่วงแรกลงไปแรงจากราคาน้ำมันลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และตอบรับข่าวสายการบินจีนยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยในเดือน ธ.ค.66-ม.ค.67 ไปประมาณ 40% ส่งผลให้กลุ่มท่องเที่ยวพักตัวลง รวมถึงกลุ่มค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวด้วย

นอกจากนี้ นักลงทุนมีมีความกังวลการชะตัวของเศรษฐกิจจีน แม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดปัญหาวิกฤติ แต่อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มธนาคารที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มอสังหาฯ

"ช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ หลังตัวเลขส่งออกไทยเดือนต.ค. ออกมาขยายตัวต่อเนื่องที่ 8% ใกล้เคียงที่ตลาดคาดที่ 9% สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป อีกทั้งนักลงทุนคาดหวังความพยายามของหน่วยงานกำกับดูแลที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุน"


ส่วนแนวโน้มในพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้างในเชิงบวก อาจจะเห็นจังหวะของการฟื้นตัวเล็กน้อยจากแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณามาตรการต่าง ๆ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ อาทิ การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ข้อสรุปมาตรการ e-Refund ที่จะเริ่มใช้ปีหน้า รวมทั้งมาตรการแก้หนี้ ทำให้กลุ่ม Domestic Play, ค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภค อาจเป็นตัวพยุงตลาดกลับมาได้ โดยมองกรอบดัชนีแนวต้าน 1,400 จุด และแนวรับ 1,390 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น