ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) ตระหนักถึงปัญหาเรื่อง "หนี้" ที่ยังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย โดยจากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่า สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของไตรมาสแรกปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 90.6 โดยครัวเรือนมีการก่อหนี้เพื่ออสังหาริมทรัพย์และอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น แต่ความสามารถในการชำระหนี้ครัวเรือนลดลง สอดคล้องกับรายงานสถิติเงินฝากตั้งแต่ปี 2562 ถึงสิงหาคม 2566 ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ที่พบว่า แม้จะมีฐานผู้ฝากเงินมากถึง 93 ล้านราย แต่จำนวนเงินฝากกลับหดตัวลงตั้งแต่ปี 2565 โดยในเดือนสิงหาคม 2566 มีการหดตัวติดลบ 3.61% นอกจากนี้ ผู้ฝากเงินมากกว่า 80% เป็นกลุ่มคนที่มีเงินฝากในบัญชีน้อยกว่า 50,000 บาท และค่าเฉลี่ยประชากรไทยส่วนใหญ่มีเงินฝากในบัญชีต่ำกว่า 5,000 บาทต่อคน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการออมเงินของคนไทยปรับตัวลดลงจากภาวะค่าครองชีพสูงขึ้นและภาระค่าใช้จ่ายส่งผลให้คนไทยติดกับดักหนี้เพิ่มขึ้น
ล่าสุด ทีทีบีได้ส่งมอบสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กับกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ โดยมีนายจักรพันธ์ จารุธีรศานต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารงานขายและเครือข่ายการขายลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต และนายณัฐวุฒิ เกียรติไชยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมลงนาม MOU ให้บริการสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้พนักงานในสังกัดของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ มีบริษัทในเครือรวม 49 บริษัท มีจำนวนพนักงานรวมทั้งสิ้น 2,356 คน ในการช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ เสริมสภาพคล่อง ด้วยการรวบหนี้ดอกเบี้ยสูงจากที่อื่นมาไว้ที่เดียวได้สูงสุด 4 รายการ กับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 7.99% ต่อปี (จากปกติ 25% ต่อปีสำหรับสินเชื่อทั่วไป) วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1,500,000 บาท สามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้น เพิ่มโอกาสการได้รับอนุมัติเพราะไม่คิดภาระหนี้ที่จะรวบ และสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 5 ปี ตอกย้ำการเป็นธนาคารที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้านให้พนักงานเงินเดือนได้อย่างแท้จริง
