นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์เช้านี้ถึงการพูดคุยหารือกันระหว่างปลัดกระทรวงการคลังและสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในวันนี้ เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนรวม ESG คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะเข้ามาหนุนเม็ดเงินใหม่ในตลาดหุ้นไทย เบื้องต้น ประเมินขนาดกองทุนอยู่ที่ประมาณหลักแสนล้านบาท และจัดตั้งกองทุนภายในปีนี้
โดยกองทุน ESG มีลักษณะคล้ายกองทุน LTF เช่นในอดีตที่ผ่านมา แต่เงื่อนไขในการลงทุนจะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีมาตรฐานการปฏิบัติที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และเงื่อนไขที่เอื้อต่อสังคมในมาตรฐานที่สูง โดยการพูดคุยในวันนี้จะพูดถึงความชัดเจนในมูลค่าของกองทุน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในบ่ายวันนี้ ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเข้ามาแทนที่และทันปีภาษีปี 66 ด้วย เป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีรายได้ 66
นอกจากนี้ การพูดคุยเกี่ยวกับสภาวะตลาดหุ้นไทย ร่วมกับปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวานนี้ โดยพูดถึงข่าวลือเรื่อง Naked Short Sell ซึ่งได้รับการยืนยันจากทาง ก.ล.ต.และ ต.ล.ท. ว่ามีมาตรฐานติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่เชื่อว่ามีการทำ Naked Short Sell อย่างไรก็ตาม สำนักงานได้เพิ่มมาตรฐานการกำกับดูแลมากขึ้น ซึ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเห็นมาตรการใหม่ในการติดตาม กำกับ ไม่ให้เกิดการทำ Naked Short Sell ให้เข้มข้นขึ้นอีก
อีกทั้งนักลงทุนมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งจากการคาดการณ์ทั้งในระดับชาติและระดับประเทศคาดว่าประเทศไทยน่าจะเติบโตได้น้อยเช่นเดิม ซึ่งคาดว่าสองปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยซึมตัวต่อเนื่อง