หุ้นปิดลบ 2.44 จุด รับแรงขายหลังประกาศงบ Sell on fact โดยเฉพาะ บจ.งบต่ำคาด ส่วนวงหารือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาเรียกความเชื่อมั่นตลาดทุน แถลงย้ำว่าไม่มี Naked Short Sell ขณะที่รัฐมีแนวทางเรียกความเชื่อมั่นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดตั้ง ESG Fund แต่ยังต้องติดตามรายละเอียดต่อไป แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดยังผันผวนไร้ปัจจัยใหม่ เกาะติดเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการหารือระหว่างกระทรวงการคลัง-FETCO รวมถึงงบ บจ.ที่เหลืออาจทำให้หุ้นรายตัวผันผวน
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาควันนี้ค่อนข้างผสมผสาน โดยกลุ่มเอเชียเหนือปรับตัวขึ้นได้ดี แต่กลุ่ม TIP ทั้งอินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์อ่อนตัวลงมา
ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจาก Sell on fact หุ้นที่ประกาศงบไตรมาส 3/66 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด เช่น COM7 ที่ร่วงลงไปถึง 16% และ JMT ลงไปกว่า 10%
ขณะที่วันนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาหารือหน่วยงานตลาดทุน โดยแถลงออกมา 3 ประเด็น ประกอบด้วย การยืนยันข้อมูลว่าไม่มีการทำ Naked Short Sell ในตลาดหุ้นและจะยกระดับความเข้มข้นของมาตรการกำกับดูแลขึ้นอีก ส่วนภาครัฐจะเรียกความเชื่อมั่นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ GDP โตตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง และกระทรวงการคลังนัดหารือกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ถึงแนวทางในการกระตุ้นตลาดทุน คาดว่าจะออกกองทุน ESG Fund ในรูปแบบการลงทุนระยะยาวคล้ายกับ LFT ที่มีมาตรการภาษีสนับสนุน ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดต่อไป
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,387.13 จุด ลดลง 2.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.18% มูลค่าซื้อขาย 46,157.93 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดยังผันผวนเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา นักลงทุนให้น้ำหนักไปที่การติดตามการตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (14 พ.ย.) ขณะที่ในประเทศติดตามวงหารือกระทรวงการคลัง และ FETCO คาดว่าจะนำเสนอรูปแบบของกองทุนต่างๆ ที่จะมีขึ้นหลังจากที่ SSF จะหมดอายุมาตรการภาษีในปีหน้า หากมีมาตรการหรือรูปแบบกองทุนใหม่ๆ เข้ามาอาจจะเป็น Sentiment เชิงบวก
นอกจากนั้น ยังเป็นช่วงสุดท้ายของการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอาจเห็นความผันผวนของหุ้นรายตัว