บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ยื่นขอล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลางตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 แม้สินทรัพย์มากกว่ามูลหนี้ 12,161 ล้านบาท จากงบการเงินล่าสุดงวดไตรมาส 2/66 สิ้นสุด 30 มิ.ย. โดยมีหนี้สินเพียง 7,398 ล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 4,756 ล้านบาท ด้านหลักทรัพย์หลังเปิดตลาดทรุดฮวบร่วงติดฟลอร์ -29.36% มาอยู่ที่ 0.77 บาท ลดลง 0.32 บาท เมื่อเวลา 10.13 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.76 บาท
บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ส่งหนังสือแจ้งตลาดหุ้นถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทลงวันที่ 7 พ.ย.2566 ได้อนุมัติให้บริษัทในฐานะลูกหนี้ ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และเสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยในวันที่ 8 พ.ย.2566 บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทเรียบร้อยแล้วในการนี้ บริษัทขอเรียนชี้แจงสรุปสาระสำคัญของคำร้องฟื้นฟูกิจการ ดังนี้
1.บริษัทในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
2.เสนอ JKN เป็นผู้ทำแผน
3.กำหนดแนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น ดังนี้
3.1 การปรับโครงสร้างกิจการและโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับสมมติฐานทางการเงิน และสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอดจนแก้ไขปัญหาของกิจการในส่วนของเงินทุนหมุนเวียน เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท รวมถึงการปรับโครงสร้างภายในองค์กร
3.2 การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การผ่อนผันในเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างรายรับจากการประกอบกิจการและนำมาจัดสรรชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้อย่างครบถ้วน และบริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้
3.3 การได้รับเงินสนับสนุนทางด้านการเงินจากแหล่งเงินทุน โดยได้รับจากผู้ลงทุนรายใหม่ หรือสถาบันการเงินเพื่อเป็นการหมุนเวียนในกิจการของบริษัท
4.การจัดหาแนวทางการดำเนินการขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือก่อให้เกิดรายได้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
5.การจัดเตรียมแผนงาน และกลยุทธ์ในการบริหารสภาพคล่องของบริษัท และการปรับปรุงระบบ โครงสร้างภายในองค์กรและการพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
JKN ระบุว่าการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทจะช่วยให้บริษัทแก้ไขปัญหาสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกฎหมายรองรับ และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม อีกทั้งบริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อการแก้ไขปัญหาของบริษัท และเพื่อสร้างผลกำไรจากการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง บริษัทจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าขณะนี้ยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อการแก้ไขปัญหาของบริษัท และเพื่อสร้างผลกำไรจากการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่ปรากฏในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แสดงให้เห็นว่างบการเงินของ JKN งวดล่าสุดรอบ 6 เดือน 2566 บริษัทจะยังมีสินทรัพย์รวมมากกว่าหนี้สิน โดยสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 12,161 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 7,398 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามหลักการการยื่นขอฟื้นฟูกิจการที่สำคัญคือ ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด มีหนี้สินไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท มีเหตุอันควร และมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และศาลยังไม่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ในส่วนกรณีของ JKN ต้องพิจารณาว่า ตีความเข้าในหลักการได้หรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของหนี้สินล้นพ้นตัว เมื่อปรากฏว่างบการเงินล่าสุดงวดไตรมาส 2/2566 สิ้นสุด 30 มิ.ย.2566 JKN มีสินทรัพย์ 12,161 ล้านบาท มีหนี้สินเพียง 7,398 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินจำนวนมาก และมีส่วนของผู้ถือหุ้นที่เป็นบวกมากถึง 4,756 ล้านบาท