xs
xsm
sm
md
lg

“ทอสเท็ม” ทุ่ม 5,700 ล้าน สร้างนวัตกรรมวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หนุนที่อยู่อาศัยยั่งยืน ยึดไทยฐานผลิตบุกเอเชีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ซาโตชิ โยชิดะ
“ทอสเท็ม” ฉลองครบรอบ 100 ปี เปิดแผนธุรกิจประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป รุกตลาดที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน พร้อมทุ่มงบ 5,700 ล้านบาทต่อปี สร้างนวัตกรรมล้ำสมัย ชู 3 กลยุทธ์ มุ่งเน้นนวัตกรรมสินค้าที่ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยึดไทยฐานวิจัยและผลิตหลักบุกตลาดเอเชียขยายตลาดลักชัวรี หวังยกระดับการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยด้วยสินค้าคุณภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ Net-Zero ในปี 2050

นายซาโตชิ โยชิดะ เจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่ง เทคโนโลยี บริษัท ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีในที่อยู่อาศัย หรือ LIXIL Housing Technology ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักภายใต้ LIXIL ที่สร้างสัดส่วนรายได้ในแต่ละปีถึงราว 40% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 600,000 ล้านเยน หรือกว่า 145,800 ล้านบาท โดยการผลิตในปัจจุบันกว่า 37% มาจากกลุ่มสินค้าประตูหน้าต่างสำหรับที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) แบรนด์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานครบ 100 ปีในปีนี้

“ทอสเท็มถือเป็นแบรนด์สำคัญของ LIXIL Housing Technology ที่ส่งมอบนวัตกรรมสู่ผู้บริโภคด้วยรากฐานแบบญี่ปุ่นผ่านประสบการณ์นับ 100 ปี เรามุ่งมั่นนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ก้าวผ่านทุกความท้าทาย จนสามารถบุกเบิกหลากหลายนวัตกรรมในฐานะรายแรกของอุตสาหกรรม เราจะใช้นวัตกรรมเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน”

สำหรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนแบรนด์ TOSTEM นับจากนี้ จะเดินหน้าภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.ขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่ตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยทิศทางของ LIXIL ที่มีวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม 2050 มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net-Zero CO2 emission) และใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน แบรนด์ TOSTEM ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น อะลูมิเนียมรักษ์สิ่งแวดล้อม “PremiAL R70” ซึ่งผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 70% และกำลังเตรียมเปิดตัว “PremiAL R100” ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
 
2.ใช้ไทยเป็นฐานวิจัยและผลิตหลักสำหรับบุกตลาดเอเชีย ในแต่ละปี เครือ LIXIL ทุ่มงบลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ปีละกว่า 23,500 ล้านเยน หรือกว่า 5,700 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัย และขยายพื้นที่การส่งมอบสู่ลูกค้าทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย บริษัทมีฐานลูกค้าหลักอยู่ใน 6 ประเทศ และมีโรงงานผลิตทั้งสิ้น 4 แห่ง สำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญ โดยได้ก่อตั้งสำนักงานใหญ่ด้านการตลาดในเอเชีย รวมถึงจัดตั้งศูนย์วิจัยและการพัฒนา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่คุณภาพสินค้า ผ่านกระบวนการอันเป็นเอกลักษณ์อย่างระบบการผลิตชิ้นงานแบบสำเร็จรูป 
 
3.ขยายตลาดลักชัวรี ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจ LIXIL Housing Technology ได้มุ่งพัฒนาโซลูชันพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรีอย่างต่อเนื่อง ในปี 2021 ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ NODEA สินค้าดีไซน์คุณภาพสูง ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสถาปนิกและกลุ่มลูกค้าระดับลักซัวรี 
 
นายอิจิโระ มุราโคชิ เจ้าหน้าที่บริหาร ภูมิภาคเอเชีย กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่ง เทคโนโลยี (LIXIL Housing Technology), บริษัท ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การสร้างประสบการณ์ร่วมให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับสินค้าจริง ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความพึงพอใจและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้า บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และการตอบสนองความต้องการอันเป็นเอกลักษณ์ของตลาดลูกค้าเอเชีย ในวาระครบรอบ 100 ปี บริษัทจึงได้จัดงาน TOSTEM Asia Design Award งานประกวดผลงานการออกแบบที่อยู่อาศัยขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย เพื่อร่วมยกย่องเหล่าสถาปนิกที่มีส่วนสำคัญในการยกระดับความสะดวกสบายและคุณภาพการอยู่อาศัยผ่านการออกแบบอันมีนวัตกรรม สอดคล้องกับทิศทางของ TOSTEM ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ เทคโนโลยีขั้นสูง และหลักการออกแบบของญี่ปุ่น โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมถึงกว่า 133 ผลงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น