หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -8.32 จุด นักวิเคราะห์ชี้หุ้นไทยแกว่งลบตลอดวันหลังช่วงวันหยุดชดเชยตลาดต่อเนื่อง 3 วัน นอกจากนี้ยังมีแรงขายทำกำไรจากกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันปรับลง อีกทั้งบอนด์ยีลด์ยังอยู่ในระดับสูงส่งผลต่อแรงกดดันตลาด ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวรับที่ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 ต.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -8.32 จุด หรือ -0.59% โดยปิดตลาดที่ 1,391.03 จุด มูลค่าซื้อขาย 49,584.20 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีแกว่งแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,398.73 จุด ในทิศทางขาลงกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,387.60 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 201 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 146 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 301 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,444.49 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -104.01 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า+1,152.72 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +395.78 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 5,900.20 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง 3.75 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,945.40 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,495.40 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,748.42 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,518.81 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่67.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 3.08%
2.RATCH ปิดที่ 33.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 4.76%
3.SAWAD ปิดที่42.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.68%
4.KBANK ปิดที่130.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.16%
5.MTC ปิดที่36.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 3.55%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่ 161.50บาท ลดลง 5.50บาท หรือ 3.29%
2.ADVANC ปิดที่ 215.00บาท ลดลง 5.00บาท หรือ 2.27%
3.PTTEP ปิดที่ 169.50บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 2.31%
4.SCB ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง 3.75 บาทหรือ 3.76%
5.SCC ปิดที่ 283.00บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.05%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,904.10 จุด ลดลง -13.51 จุด หรือ -0.70% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 857.99 จุด ลดลง -5.94 จุด หรือ -0.69% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 407.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ 0.01%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นการปรับลงตามตลาดภูมิภาคที่ลงไปแล้ววานนี้ในช่วงที่บ้านเราเป็นวันหยุดชดเชย รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยรับแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันปรับลง
ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้หากดัชนีไม่หลุดกรอบ 1,380-1,390 จุดอาจมีแรงซื้อกลับ จากปัจจุบันเข้าโซนขายมากเกินไป (Oversold) อีกทั้ง Valuation เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น ขณะที่วันนี้จับตาการเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในหลายประเทศสำคัญ วันพฤหัสติดตามธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/66 ของสหรัฐ รวมทั้งในวันศุกร์ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,390 จุด ส่วน 1,430 จุดเป็นแนวต้านแรก หากผ่านได้เปิดอัพไซด์ให้แนวถัดไปที่ 1,420 จุด