หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -14.81 จุด นักวิเคราห์ชี้แรงกดดันบอนด์ยีลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 5% รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสมีโอกาสยืดเยื้อเพิ่มขึ้น หลังอิหร่านปลุกระดมชาวมุสลิมต่อต้านอิสราเอล อีกทั้งราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงอาจผลักดันให้แนวโน้มเงินเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,415 จุดและแนวต้านที่ 1,430 จุด แนะจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 19 ต.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -14.81 จุด หรือ -1.03% โดยปิดตลาดที่ 1,423.04 จุด มูลค่าซื้อขาย 36,492.93 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีปรับตจัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,428.75 จุด ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,419.39 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 139 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 172 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 334 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,655.10 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,896.73 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -115.89 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -642.49 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,919.60 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,416.65 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,293.33 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,104.04 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,005.29 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TIPHปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 3.01%
2.TQM ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น .00บาทหรือ 2.90%
3.BBL ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 0.60%
4.ADVANC ปิดที่ 226.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 0.44%
5.FORTH ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาทหรือ 1.98%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 290.00 บาท ลดลง 6.00บาทหรือ 2.03%
2.PTTEP ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 3.50บาทหรือ 2.00%
3.EGCO ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง 2.50บาทหรือ 2.07%
4.BH ปิดที่ 262.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 0.76%
5.AMATA ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.25บาทหรือ 4.72%
ขณที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,950.12 จุด ลดลง -22.69 จุด หรือ -1.15% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 877.98 จุด ลดลง -10.35 จุด หรือ -1.17% ส่วนดัชนีตลาด mai ปิดที่ 415.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด หรือ 0.14%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพัธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) 10 ปี ปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 5% นอกจากนี้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่มีโอกาสยืดเยื้อ หลังจากยังไม่เห็นภาพของการเจรจาร่วมกันอีกทั้งอิหร่านยังกล่าวปลุกระดมชาติอิสลามต่อต้านอิสราเอล รวมทั้งราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงจะกดดันเงินเฟ้อ โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยนานขึ้น
"แนะนำให้นักลงทุนติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในคืนวันนี้ หากไม่มีการส่งสัญญาณที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. ตลาดอาจจะผ่อนคลายความกังวลมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้นักลงทุนให้น้ำหนักในการประชุมวันที่ 1 พ.ย. ประมาณ 80-90% ว่ายังคงอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ตลาดจะรีบาวด์ได้ขึ้นอยู่กับถ้อยแถลงของประธานเฟด รวมทั้งหากบอนด์ยีลด์มีการชะลอตัวลงมาพรุ่งนี้ดัชนีน่าจะฟื้นตัวได้บ้าง โดยมองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับไว้ที่ 1,415 จุดและแนวต้าน 1,430 จุด" นายศราวุธ กล่าว