แซม อัลต์แมน ผู้ก่อตั้ง OpenAI บริษัทที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์ม ChatGPT กังวลกับอนาคตของบิตคอยน์และคริปโตที่เขาเชื่อว่า กำลังเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ระหว่างร่วมรายการ “โจ โรแกน เอ็กซ์พีเรียนซ์” ของโจ โรแกน พอดแคสเตอร์คนดังของอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้ อัลต์แมน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของ OpenAI แสดงความผิดหวังกับการที่รัฐบาลอเมริกาโจมตีคริปโต และเสริมว่า มาตรการหลายอย่างชี้ว่า วอชิงตันกำลังทำสงครามกับคริปโต และพยายามเข้าควบคุมบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลทั้งหมด
เขายืนยันว่า ไม่ได้เป็นพวกต่อต้านกฎระเบียบ โดยยกกรณีกระดานเทรดคริปโตชื่อดัง FTX ล้มว่า เป็นตัวอย่างว่า กฎระเบียบยังเป็นสิ่งสำคัญ
ความคิดเห็นของอัลต์แมนสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของสาวกคริปโตและผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ที่กังวลกับการที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงแวดวงสกุลเงินดิจิตอลมากขึ้น ขณะเดียวกัน การดำเนินการนี้ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลที่นำโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ถูกกล่าวหาว่า พยายามบดขยี้คริปโต
อัลต์แมนสำทับว่า เขากังวลมากเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายกิจกรรมการสอดแนมของรัฐบาลอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการเข้าควบคุมเงินตรา เขายังต่อต้านแนวคิดสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นประเด็นถกเถียงในหมู่สมาชิกรัฐสภาและหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่คัดค้าน CBDC เช่นเดียวกัน
ขณะที่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บอกว่า การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ยังเป็นแนวโน้มที่ยาวไกล
ขณะเดียวกัน อัลต์แมนเผยว่า เขายังคงกระตือรือร้นกับบิตคอยน์ โดยย้ำว่า การมีสกุลเงินระดับโลกที่ดำเนินการนอกกรอบการควบคุมของรัฐบาลเป็นความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวอัลต์แมนเองตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในชุมชนบิตคอยน์ ในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งโปรเจ็กต์คริปโตเวิลด์คอยน์ (WLD) ที่มีเป้าหมายในการสร้างฐานข้อมูลบุคคลด้วยการสแกนม่านตาแลกกับโทเค็น WLD ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและจริยธรรม
โปรเจ็กต์นี้ทำให้รัฐบาลหลายประเทศแบนกิจกรรมของเวิลด์คอยน์ โดยประเทศ อาทิ เคนยา ระบุว่า เหตุผลหลักคือกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
สำหรับเจ้าของรายการคือ โรแกนที่ได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในพอดแคสเตอร์ที่มีรายได้สูงสุดและมีผู้ชมมากที่สุดในโลกนั้น เขาเห็นด้วยกับอัลต์แมนว่า เสน่ห์ที่แท้จริงของคริปโตคือบิตคอยน์ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า BTC มีโอกาสมากที่สุดที่จะผงาดขึ้นเป็น “สกุลเงินสากลที่อยู่รอดได้”
นอกจากนั้นเขายังกังวลมากเกี่ยวกับ CBDC โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแนวโน้มที่จะมีการเชื่อมโยงกับคะแนนความน่าเชื่อถือทางสังคม และเชื่อว่า CBDC ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์ของสังคม แต่เพื่อเป็นเครื่องมือควบคุมของรัฐ
โรแกนยังสงสัยว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเข้าควบคุมสกุลเงิน แต่เห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำเป็นอันดับแรกน่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า