เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มองอุตสาหกรรมหนี้ด้อยคุณภาพยังสดใส แย้มซื้อหนี้ด้อยคุณภาพแบบไม่มีหลักประกันไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบัน ช่วงต้นไตรมาส 4 เพิ่มอีก 30,000 ล้านบาท ดันพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพสูงเกือบ 5 แสนล้านบาท ด้นครึ่งปีหลังฟื้นดี เผยพร้อมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กลุ่มบริษัทเจมาร์ท ในฐานะ Core Earning ตั้งเป้าหมายภาพรวมทั้งปีให้เติบโต New High เผย JMART จ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนกันยายนครบถ้วน 1 พันล้านบาท
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART มองโอกาสของการพลิกฟื้นผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง และการเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 ไว้ค่อนข้างสดใส จากความพยายามในการปรับกลยุทธ์ของกิจการภายในกลุ่มให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา โดยยังคงย้ำว่าไตรมาส 2/2566 คือ จุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว
โดยมีปัจจัยบวกสำคัญคือ ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ที่จะทำได้ตามเป้าหมาย รวมทั้งการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ Jas Green Village บางบัวทอง ของบริษัทย่อย เจเอเอส แอสเซ็ท (J) เมื่อวันที่ 29 กันยายน 66 ที่ผ่านมา การเข้าสู่ High Season ของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจัดจำหน่ายมือถือที่จะมีมือถือรุ่นใหม่ออกมาจำหน่าย และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในบริษัทที่ได้เข้าลงทุน คือ สุกี้ ตี๋น้อย ที่ได้เปิดสาขาล่าสุด สาขาที่ 49 ที่ Jas Village อมตะนคร ชลบุรี ซึ่งเป็นการศึกษาการทำ Synergy ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า บริษัทได้จ่ายชำระคืนหุ้นกู้ มูลค่า 1 พันล้านบาท ที่ได้ครบกำหนดไปเมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน โดยบริษัทจะไม่มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอีกแล้วในรอบอีกเกือบ 1 ปีข้างหน้า
ในด้าน นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT มองภาพในเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมตามหนี้ ซึ่งจะสร้างการเติบโตระยะยาวให้บริษัท เนื่องจากเป็นโอกาสให้บริษัทสามารถลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพได้จำนวนมากในปี 2566 และส่วนใหญ่ในปีนี้บริษัทได้เข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพแบบไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) เป็นหลัก ซึ่งจะเป็นฐานของพอร์ตหนี้ของบริษัทที่จะสร้างการเติบโตระยะยาว
พร้อมกันนี้ ยังเปิดเผยข่าวดี ในไตรมาส 3/2566 จนถึงปัจจุบัน ในช่วงต้นไตรมาส 4/2566 JMT สามารถจบดีลซื้อหนี้เพิ่มอีก 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ไม่มีหลักประกัน จากสถาบันการเงินขนาดใหญ่
ดันพอร์ตหนี้บริหารในบริษัทอยู่ที่เกือบ 5 แสนล้านบาท (รวม JK AMC) โดยมองว่าปีนี้ จะตั้งเป้าหมายให้มีการเติบโตจากปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ผลการดำเนินงานมีสถิติสูงสุดใหม่ (New High) เมื่อเทียบกับปีก่อน