ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ เสิร์ฟ “ชาพีช วิตามินซีสูง” ในร้าน 7-ELEVEN ทั่วประเทศ วันที่ 28 ก.ย.นี้ ชูจุดเด่นคัดสรรโปรไฟล์กลิ่นพีชจากสายพันธุ์ Fukushima Akatsuki Peach สุดหอมหวานจากญี่ปุ่น พร้อมผนึกพันธมิตร 7-Eleven ส่งเครื่องดื่มของบริษัทไปสาขาแรกที่ สปป.ลาว หลังประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในกัมพูชา ขณะที่ครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง หนุนทั้งปีเติบโตเข้าเป้า 10%
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่า TACC ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ “ชาพีช วิตามินซีสูง” (Peach Tea Hi-C) ออกสู่ตลาด จับกลุ่มคนรักสุขภาพ เพื่อต้อนรับในช่วงเทศกาลกินเจ พร้อมวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ทั่วประเทศในวันที่ 28 กันยายน 2566 โดยความพิเศษของ Peach Tea Hi-C คือ การคัดสรรโปรไฟล์กลิ่นพีชจากสายพันธุ์ Fukushima Akatsuki Peach ของญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหอมหวานของลูกพีช นำมาผสมผสานเข้ากับรสเข้มข้นของชาดำและชาเขียว ได้เป็นชาพีชที่มีกลิ่นหอมพีชฉ่ำๆ รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ให้ผู้ดื่มรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสของความละมุนและสดชื่นอย่างลงตัว และที่สำคัญคือมีวิตามินซีสูง
ปัจจุบัน TACC ได้จับมือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner และได้ส่งเครื่องดื่มเข้าไปขายเพื่อสร้างรายได้ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ TACC มีโอกาสเติบโตตามการขยายสาขาของ 7-Eleven ในต่างประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 7-Eleven ได้เปิดสาขาแรกใน สปป.ลาว ซึ่งบริษัทได้ส่งเครื่องดื่มทั้ง Jet spray และ All Café เข้าไปด้วย และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า หลัง 2 ปีก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาและเติบโตในกัมพูชา
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566 สอดรับกับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่คึกคักมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ธุรกิจคาแร็กเตอร์ ได้จัดทำโครงการ “Thai Character Pop up in Tokyo” เพื่อนำสินค้า “หมาจ๋า” ไปจำหน่ายในร้าน Roppongi Hills Uchimori Art Museum เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมั่นใจว่าจะได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการโดยรวมในงวดครึ่งปีหลัง 2566 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ที่มีรายได้รวม 826.54 ล้านบาท โดย TACC ยังคงดำเนินกลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เดิม และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
“ในครึ่งปีหลัง TACC มีการขยายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Health and Wellness เต็มรูปแบบ โดยกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) ได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu และออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Café ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความแตกต่างให้ผู้ประกอบการร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ และคาดว่ารายได้รวมปี 2566 จะโต 10% ตามเป้าหมาย” นายชัชชวี กล่าว