บล.เอเซียพลัส ประเมินหาก กนง. ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายพรุ่งนี้เป็น 2.5% กดเป้า SET Index ปีนี้อยู่ที่ 1,524 จุด กระทบมูลค่าการซื้อขายต่อวันหายไป 4 พันล้านบาท ส่วน Turnover หายไป -6.4% ต่อปี พร้อมแนะนักลงทุนเตรียมรับมือความผันผวนตลาดจาก Fund Flow ที่สลับซื้อขายหุ้นไทยหนัก
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยว่า หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขึ้นดอกเบี้ยอีกในการประชุมวันนี้ (27 ก.ย.) จะเป็นปัจจัยกดดันให้สภาพคล่องในตลาดหุ้นลดลง และตลาดมีโอกาสผันผวนจากแรงซื้อขายมากขึ้น
กรณีที่ กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 2.5% ดัชนี SET มีโอกาสย่อตัวลง 71 จุด อย่างไรก็ตามยังมองว่าตลาดตอบรับมาในระดับหนึ่งแล้ว สังเกตได้จาก SET ที่ลดลง 69 จุด จาก 1,579 จุด ช่วงปลายเดือน ส.ค. ทั้งนี้ ที่ระดับอัตราดอกเบี้ย 2.25% เป้าดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,595 จุด แต่หากดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 2.50% เป้าดัชนีจะลดลงมาอยู่ที่ 1,524 จุด
ขณะที่แรงขายต่างชาติในเดือน ก.ย. Fund Flow ไหลออกจากตลาดการเงินของไทย -4.72 หมื่นล้านบาท (mtd) แบ่งเป็นการขายตราสารหนี้ -2.56 หมื่นล้านบาท (mtd) และขายหุ้น -2.16 หมื่นล้านบาท (mtd)
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังมีความกังวลว่า กนง. มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.25% เป็น 2.5% ในรอบการประชุม 27 ก.ย.66 นี้ สะท้อนได้จาก Bond Yield 1Yไทย ขยับขึ้นมา +25 bps. (mtd) ล่าสุดอยู่ที่ 2.44%
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ ได้ทำการศึกษามูลค่าการซื้อขายหุ้นไทย กับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายพบว่า มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกัน คือ เวลาที่ดอกเบี้ยนโยบายขยับขึ้นมูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยมีโอกาสลดลง จากสถิติในอดีตทุกๆ ดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มขึ้น 0.25% กดดันให้มูลค่าซื้อขายหายไปราว 4 พันล้านบาทต่อวัน หรือ Turnover หายไป -6.4% ต่อปี
สรุปคือ หากมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ จะกดดันให้มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยมีโอกาสเบาบางลง (คาดการลดลง 4 พันล้านบาทต่อวัน) และภายใต้ Fund Flow ที่สลับซื้อขายหุ้นไทยหนัก ถือเป็นตัวแปรเพิ่มความผันผวนให้ตลาดหุ้นมากขึ้นที่นักลงทุนต้องเตรียมรับมือ