xs
xsm
sm
md
lg

กูรูชี้ตลาดหุ้นวอลุ่มหดหลังดอกเบี้ยสูง นักลงทุนรอผลงานรัฐบาลใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกเกอร์ประเมินหลังมูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นไทยลดลงเหลือ 5.4 หมื่นล้านบาท/วัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 7.1 หมื่นล้านบาท/วัน หลังดอกเบี้ยขาขึ้น ทำนักลงทุนโยกเงินเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ระบุวอลุ่มต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาท/วัน ฉุดดัชนีลดลงประมาณ 13% ต่อปี ขณะที่อีกส่วนรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ ประเมินกรอบดัชนี 1,520-1,570 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนเลือกหุ้นกลุ่มค้าปลีก หุ้นที่ได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันขึ้น

ASPS ชี้ 3 ปัจจัยฉุดวอลุ่มตลาดหด

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่อจาก 3 ปัจจัยหลักดังนี้

1.ทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงปี 64 มูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นไทยเคยขึ้นไปถึงระดับ 1 แสนล้านบาทต่อวัน แต่หลังจากแนวโน้มดอกเบี้ยมีสัญญาณที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมาต่อเนื่องจนปัจจุบันที่ระดับ 2.25% จึงทำให้มีการโยกย้ายเม็ดเงินลงทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

2.การเกิดสุญญากาศทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.66 ที่มูลค่าเฉลี่ยลดลงเหลือ 4.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน และบางวันไหลลงไปถึงระดับ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน

"วอลุ่มแห้งมากๆ และมองว่าที่ต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน มักมีผลให้ดัชนีลดลงได้ราว 13% ต่อปี ส่วนหากวอลุ่มตลาดที่เกินกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน จะมีผลให้ดัชนีเพิ่มขึ้นได้ราว 8% ต่อปี" นายภราดร กล่าว 

และ 3.มาจากช่วงต้นปีนักลงทุนเน้นซื้อขายหุ้นเพียง 2 กลุ่มเท่านั้น ได้แก่ กลุ่มธนาคารและกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ภายหลังช่วงการเลือกตั้งทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น

วอลุ่มเฉลี่ยลดลงเหลือ 5.4 หมื่นล้านบาท/วัน จากปีก่อน 7.1 หมื่นล้านบาท/วัน

ปัจจุบันนี้มูลค่าเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ระดับ 5.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งถือว่าปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ระดับ 7.1 หมื่นล้านบาทต่อวัน และปี 64 ที่ระดับ 8.8 หมื่นล้านบาทต่อวัน

อย่างไรก็ตาม มองว่านับตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายหุ้นไทยเริ่มกลับมาสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีนี้ที่ระดับ 5.4 หมื่นล้านบาทต่อวันแล้ว โดยมูลค่าเฉลี่ยในเดือน ส.ค.อยู่ที่ระดับ 5.7 หมื่นล้านบาทต่อวัน และบางวันปรับตัวเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 7 หมื่นล้านบาทต่อวัน

"ช่วงที่เหลือของปีแม้วอลุ่มตลาดอาจไม่ร้อนแรงเท่าในช่วง 1-2 ปีก่อน แต่น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะทยอยออกมา"

คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,570 จุด

ทั้งนี้ ประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยดาวน์ไซด์เริ่มจำกัดและมีอัปไซด์มากขึ้น จึงคาดว่าดัชนีจะปรับตัวในกรอบ 1,520-1,570 จุด และมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะ 1,600 จุดได้ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนนั้น แนะนำนักลงทุนเลือกหุ้นที่คาดกำไรจะเติบโตได้ดีหลังปรับฐานลงมาแล้ว เช่นกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL-CPAXT-CPF-BJC และ CRC รวมถึงกลุ่มหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เช่น TOP-PTTGC และ SCGP


กำลังโหลดความคิดเห็น