ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือน ส.ค.66 ดัชนี KR-ECI และดัชนี 3 เดือนข้างหน้าทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 36.2 และ 38.9 โดยในเดือนนี้ครัวเรือนมีระดับความกังวลลดลงในด้านรายได้และการจ้างงาน โดยเริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นขยายไปนอกภาคบริการและภาคเกษตรมากขึ้น อย่างไรก็ดี ครัวเรือนยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นในด้านราคาสินค้า ค่าครองชีพที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น ราคาสินค้าเกษตรที่อาจปรับขึ้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่ส่งผลให้ปริมาณผลิตลดลง รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังมีความผันผวน
นอกจากนี้ ครัวเรือนยังมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาระในการชำระหนี้ โดยในไตรมาส 1/2566 ครัวเรือนมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง สะท้อนผ่านสัดส่วนของหนี้เสียหรือหนี้ที่มียอดค้างชำระมากกว่า 3 เดือน (NPLs) ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.68% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย โดยหนี้เสียของสินเชื่อยานยนต์ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนในการก่อหนี้เพิ่มเติมของครัวเรือนในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยพบว่า ครัวเรือนส่วนใหญ่ 78.8% ยังไม่มีแผนที่จะก่อหนี้เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนไทยดูเหมือนจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นในด้านราคาสินค้า โดยครัวเรือนไทยยังคงต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น ราคาสินค้าเกษตรที่อาจปรับขึ้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่ส่งผลให้ปริมาณผลิตลดลง รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังมีความผันผวน นอกจากนี้ ครัวเรือนยังมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาระในการชำระหนี้ โดยในไตรมาส 1/2566 ครัวเรือนมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง สะท้อนผ่านสัดส่วนของหนี้เสียหรือหนี้ที่มียอดค้างชำระมากกว่า 3 เดือน (NPLs) ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.68% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย โดยหนี้เสียของสินเชื่อยานยนต์ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าดัชนี KR-ECI ยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2566 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและภาคการท่องเที่ยวซึ่งจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนมุมมองด้านรายได้และการจ้างงานของครัวเรือนไทย นอกจากนี้ การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความชัดเจนแล้ว หลังสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยได้เมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 และคาดว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงต้นเดือนก.ย.66 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าในข้างต้นรัฐบาลชุดใหม่จะมุ่งเน้นไปที่มาตรการบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพและการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวได้ตามเป้าหมายของปีนี้ก่อน ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความกังวลของครัวเรือนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในระยะข้างหน้าได้
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของดัชนียังคงต้องเผชิญกับหลายปัจจัยท้าทาย เช่น ภัยแล้งจากผลของปรากฏการณ์เอลนีโญในระยะข้างหน้า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอกว่าคาดซึ่งอาจกดดันเศรษฐกิจไทยผ่านภาคท่องเที่ยวและการส่งออกไทย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2566 ดัชนี KR-ECI ฟื้นตัวได้อย่างเปราะบาง