“แอสเซทไวส์” เพิ่มพอร์ตแนวราบ วางเป้า 2-3 ปีขยายเพิ่มพอร์ตแนวราบ 20-30% แจงครึ่งหลังปี 66 ลุยเปิดตัวโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ใหม่ The Arbor มูลค่า 1,070 ล้านบาท และThe honor มูลค่า 4,400 ล้านบาท แย้มปลายปีอาจเปิดคอนโดฯ ใหม่ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีมีการเปิดโครงการใหม่รวม 14 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมโครงการเปิดใหม่ปีนี้กว่า 25,800 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะขยายพอร์ตบ้านแนวราบเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 ปีจากนี้จะเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ Cann the Riverside บรมราชชนนี จำนวน 112 ยูนิต มูลค่า 1,790 ล้านบาท 2.โครงการ The Arbor ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ จำนวน 76 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 12-20 ล้านบาท มูลค่ารวม 1,070 ล้านบาท 3.โครงการ The honor โยธินพัฒนา ไพร์ทเวทพลูวิลล่า 106 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 40-60 ล้านบาท มูลค่า 4,400 ล้านบาท 4.โครงการ Esta Serenity รังสิต-คลองสอง 137 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3-6 ล้านบาท มูลค่า 762 ล้านบาท และ 5.โครงการ ดิอาร์เบอร์ รามอินทรา-วัชรลพ 115 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 12-20 ล้านบาท มูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท และจะทยอยเพิ่มพอร์ตแนวราบ 20-30% ในระยะ 2 ปีจากนี้ หรือมีการลงทุนเพิ่มต่อปีไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ล่าสุด แอสเซทไวส์ มีแผนเปิดตัวบ้านเดี่ยวรวม 2 แบรนด์ จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน คือโครงการ The Arbor บ้านเดี่ยวระดับราคา 12-20 ล้านบาท และ The Honor บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่เป็นซูเปอร์ลักชัวรี ระดับราคา 40-60 ล้านบาท โดยแบรนด์ The Arbor จะเปิดขายบน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ และรามอินทรา-วัชรพล มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,470 ล้านบาท ซึ่งจะนำร่องเปิดตัวโครงการแรกกับโครงการ The Arbor ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการ 1,070 ล้านบาท ในเดือนก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือน พ.ย.ปี 65 บริษัทได้มีการเปิดตัวโครงการ Esta Serenity รังสิต-คลองสอง จำนวน 153 ยูนิต บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดราคาเริ่มต้น 3-6 ล้านบาท มูลค่ารวม 770 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี
“ในปี 66นี้ บริษัท มีแผนจะเปิดตัว 12 โครงการใหม่ มูลค่า 22,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกผลการตอบรับค่อนข้างดีทำให้มีความเป็นไปได้ว่าในปีนี้จะมีการเปิดโครงการใหม่มากกว่า 12 โครงการ โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะมีการเปิดคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 2 โครงการคิดเป็นมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในปี 66 นี้บริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่รวม 14 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 25,800 ล้านบาท”