กันกุลจับมือ "สยามพิวรรธน์ ไซม่อน" พัฒนาพื้นที่หลังคาแนวราบติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ บนพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้กระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 3,800,760 กิโลวัตต์/ชั่วโมง/ปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission Reduction) 1,900 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)
กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ร่วมกับสยามพิวรรธน์ ไซม่อน บริษัทร่วมทุนบริหารโครงการ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ ระหว่าง บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และสยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ และไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลก พัฒนาพื้นที่หลังคาแนวราบติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ บนพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้กระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 3,800,760 กิโลวัตต์/ชั่วโมง/ปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission Reduction) 1,900 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 110,465 ต้น ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในระยะยาว
บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL บริษัทผู้นำด้านพลังงานทดแทน ร่วมกับสยามพิวรรธน์ ไซม่อน บริษัทร่วมทุนบริหารโครงการ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ ระหว่างบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ และไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลก ประกาศความสำเร็จในการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ พัฒนาพื้นที่หลังคาแนวราบติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ บนพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้กระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 3,800,760 กิโลวัตต์/ชั่วโมง/ปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission Reduction) 1,900 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 110,465 ต้น ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในระยะยาว และการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ความสำเร็จดังกล่าวแสดงถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ซึ่งให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บูรณาการอยู่ในกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจ เพื่อร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกรวน (Climate Change) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทนและระบบไฟฟ้าครบวงจร ที่ให้ความสำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน
น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท กันกุลฯ เล็งเห็นถึงบทบาทที่สำคัญของพลังงานสีเขียวในการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันและภาพลักษณ์ขององค์กรธุรกิจในเวทีโลก ผนวกกับวันนี้ประเทศไทยมีเป้าหมายในการเข้าสู่การเป็น Carbon Neutral Society ซึ่งพลังงานสะอาดถือว่าเป็นกุญแจที่สำคัญ โซลาร์รูฟสามารถตอบโจทย์ทั้งในมิติของการประหยัดค่าใช้จ่ายและการแก้ไขสิ่งแวดล้อมในขณะเดียวกัน ด้วยความแข็งแกร่งของกันกุลทางด้านธุรกิจระบบไฟฟ้าและพลังงานทดแทนกว่า 40 ปี เชื่อว่าจะสามารถนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญที่บริษัทได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายอุตสาหกรรมให้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) ซึ่งปัจจุบันโครงการสัญญาซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ (Private PPA) ที่แล้วเสร็จมีกำลังการผลิตรวมกว่า 100 เมกะวัตต์ นำมาช่วยต่อยอดและขยายภาพวิสัยทัศน์ของสยามพิวรรธน์ให้ชัดเจนและเติบโตอย่างยั่งยืนไปอีกขั้น ส่งเสริมธุรกิจสอดคล้องกับการคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟู และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้ทุกชีวิต”
น.ส.นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์ และไซม่อนกรุ๊ป ได้ร่วมมือกันพัฒนาสยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ ด้วยความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นวาระสำคัญของโลก ผ่านการลดการใช้พลังงานและการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน โดยครั้งนี้ สยามพิวรรธน์ และไซม่อนกรุ๊ป ร่วมกับกลุ่ม บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและเป็นหนึ่งในผู้นำเรื่องพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาด พัฒนาและติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป บนพื้นที่สยามพรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ กว่า 50,000 ตารางเมตร เพื่อนำพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเพื่อลดมลพิษ ตอกย้ำเป้าหมายองค์กรในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ให้โลกของเรา”
“การติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อปในโครงการนี้ ดำเนินการตามนโยบายและแนวปฏิบัติเรื่องการดูแลรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมที่สร้างสมดุลให้เกิดขึ้นเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งเน้นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาภาวะโลกรวน (Climate Change) ซึ่งสยามพิวรรธน์ดำเนินการอย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีความมุ่งมั่นที่จะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกในอนาคต” น.ส.นราทิพย์ กล่าว
นายไมเคิล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ผู้บริหารโครงการ สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ กล่าวว่า “สยาม พรีเมียม เอาต์เลต กรุงเทพ เป็นโครงการพรีเมียม เอาต์เลตแห่งเดียวในไทยที่ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อปเต็มรูปแบบ เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในโครงการ มุ่งสู่การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสะอาด สร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมและโลก โดยได้ติดตั้งแล้วเสร็จและเริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์แล้วในเดือนสิงหาคม 2566 นี้ สยามพิวรรธน์ ไซม่อน ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตร และนำนวัตกรรมที่เป็นมาตรฐานระดับสากลเข้ามาพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่ผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
สำหรับบริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย เช่น ธุรกิจผลิต จัดหา และจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและปรับปรุงสถานีไฟฟ้า รวมไปถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทั้งนี้ สยาม พรีเมี่ยม เอาต์เลต กรุงเทพ คือพรีเมียมเอาต์เลตระดับโลกแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่มอบประสบการณ์ชอปปิ้งด้วยสินค้าจากลักชัวรีแบรนด์ระดับโลก และอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ดัง ซึ่งการผนึกกำลังในครั้งนี้เป็นหนึ่งในความตั้งใจและนโยบายของบริษัทฯ ที่จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดเพื่อรองรับเมกะเทรนด์ด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ