ธนาคารกรุงไทย ร่วมมือกองทัพบก เปิดตัว แอปพลิเคชัน OOMSUB (ออมทรัพย์) ให้บริการกำลังพล สมาชิกกิจการออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก กรมสวัสดิการทหารบก ที่จะช่วยบริหารจัดการด้านการเงิน ครบ จบ ง่าย ในแอปเดียว
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากองทัพบกได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทยในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินมาช่วยสนับสนุนภารกิจของกองทัพบก และ การให้บริการกำลังพลมาโดยตลอด โดยในปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทยได้เปิดสาขากองบัญชาการกองทัพบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กำลังพล และในครั้งนี้ได้ประสานความร่วมมือกับทางธนาคารกรุงไทย ในการร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชัน OOMSUB (ออมทรัพย์) แอปที่จะช่วยให้กำลังพลซึ่งเป็นสมาชิกกิจการออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) สามารถบริหารจัดการเงิน อทบ. ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยผ่านสมาร์ทโฟนด้วยตัวเองได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินมาสนับสนุนบริการแก่กองทัพบกในหลายด้าน ทั้งด้านการบริหารจัดการทางการเงิน บนระบบ Krungthai Corporate Online ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านงบประมาณและการเงินของหน่วยงานในกองทัพบก การพัฒนาบริการในระบบนิเวศที่สำคัญในชีวิตประจำวัน ทั้ง Smart Hospital กับโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก และ Smart Academy กับหน่วยงานด้านการศึกษา
ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับกองทัพบก พัฒนาแอป OOMSUB (ออมทรัพย์) ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของข้าราชการกองทัพบกที่เป็นสมาชิก อทบ. ให้จัดการเงิน อทบ. ได้อย่างมั่นใจ โดยแอป OOMSUB (ออมทรัพย์) ให้บริการอยู่บนระบบคลาวด์ ที่มีความปลอดภัยสูง ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงระดับมาตรฐานสากล ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินรวดเร็ว และปลอดภัย บนช่องทางดิจิทัลครบวงจร
สำหรับแอป OOMSUB (ออมทรัพย์) ครอบคลุมการให้บริการ ทั้งการตรวจสอบสถานภาพสมาชิก ตรวจสอบยอดเงิน อทบ. ทั้งเงินฝาก เงินกู้ และดอกเบี้ยสะสม สามารถยื่นเรื่องกู้เงิน และตรวจสอบสถานะการยื่นกู้ที่ทำได้ง่ายด้วยตนเอง ทุกที่ ทุกเวลา แบบออนไลน์ เรียลไทม์ รวมถึงสามารถส่งเงินฝากสะสมเพิ่ม หรือชำระหนี้ก่อนกำหนดผ่านระบบรับชำระเงินจากทุกธนาคาร
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ “คู่คิด” ที่ช่วยให้สมาชิกวางแผนด้านการเงิน ทั้งด้านการเก็บออมเงินและด้านการกู้เงิน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ข้าราชการกองทัพบก โดยในอนาคตจะเชื่อมโยงการเบิกจ่ายตรงผ่านกระเป๋าสุขภาพ โดยปัจจุบันมีกำลังพลจำนวนทั้งสิ้น 160,000 ราย