รอยเตอร์ - รัฐสภาที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งชุดใหม่ของกัมพูชามีมติรับรอง พล.อ.ฮุน มาเนต นายพล 4 ดาว เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ (22) ถือเป็นการเสร็จสิ้นการถ่ายโอนอำนาจครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้การนำของบิดาของเขาที่ยาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ
ฮุน มาเนต วัย 45 ปี ที่สำเร็จการศึกษาจากตะวันตก ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากสภาแห่งชาติที่พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของเขาครอบครองอยู่ หลังการเลือกตั้งในเดือน ก.ค. ที่ถูกปฏิเสธอย่างกว้างขวางด้วยมองว่าเป็นการเลือกตั้งหลอกลวงเนื่องจากขาดพรรคฝ่ายค้าน
ฮุน มาเนต กล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม และให้คำมั่นว่าเขาจะปฏิบัติตามนโยบายของพรรคประชาชนกัมพูชา และรับประกันสันติภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น และการขึ้นค่าจ้างสำหรับข้าราชการและคนงานตัดเย็บเสื้อผ้า
นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวยกย่องบิดาของเขาและนักการเมืองรุ่นเก่าที่ขับเคลื่อนกัมพูชาจากสงครามกลางเมืองเลวร้ายที่กินเวลายาวนานหลายปีมาสู่ยุคสมัยแห่งสันติภาพ การเติบโต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
“ภูมิปัญญาที่หลักแหลม ประสบการณ์ที่หลากหลาย ปฏิบัตินิยม และระดับของความเฉลียวฉลาด รอบรู้ และความช่ำชองเชี่ยวชาญที่ฮุนเซนและผู้นำต่างๆ ได้แสดงออกมา ถือเป็นสุดยอดศิลปะของความเป็นผู้นำ สิ่งที่เราในฐานะคนรุ่นอนาคตได้แต่ปรารถนา” ฮุน มาเนต กล่าว
ฮุนเซน อายุ 71 ปี อดีตนายทหารเขมรแดงและผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในกัมพูชา ได้ให้คำมั่นว่าจะยังอยู่ในแวดวงการเมืองในบทบาทอื่นๆ เป็นเวลาอย่างน้อยอีก 1 ทศวรรษ สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อขจัดความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกชายของเขา
ฮุนเซน หนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก ได้แสดงความปรารถนาที่จะเป็นประธานวุฒิสภาในปีหน้า
นับจนถึงการกล่าวปราศรัยต่อสภาในวันนี้ (22) แทบไม่ค่อยมีใครทราบถึงวิสัยทัศน์ของฮุน มาเนต ที่มีต่อกัมพูชา ประเทศที่มีประชากร 16 ล้านคน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นำคนอื่นที่ไม่ใช่ฮุนเซน
ฮุน มาเนต สำเร็จการศึกษาจากสถาบันทหารเวสต์พอยต์ในสหรัฐฯ และได้รับการเลื่อนยศอย่างรวดเร็วในรั้วกองทัพ โดยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายต่อต้านการก่อการร้าย รองหัวหน้าหน่วยคุ้มกันของบิดา ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด
นอกจากนี้ เขายังได้รับการศึกษาระดับสูง โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสตอล ของอังกฤษ ในด้านเศรษฐศาสตร์ทั้งคู่ ซึ่งตรงข้ามกับบิดาของเขาที่ไม่มีการศึกษาอย่างเป็นทางการ
ในช่วงเดือนแรกๆ ของการดำรงตำแหน่ง ฮุน มาเนตจะถูกจับตาจากชาติมหาอำนาจ เพื่อหาสัญญาณว่าเขามีแนวทางเสรีนิยมมากขึ้น ปรับปรุงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของกัมพูชากับตะวันตก หรือมีแผนที่จะรักษาสถานะเผด็จการที่เป็นอยู่ของบิดา และยังคงอยู่ในวงอิทธิพลของจีนหรือไม่.