มาสเตอร์ สไตล์ ครึ่งปีแรกกำไรพุ่งแตะ 153.05 ล้านบาท โต 11.62% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังรายได้เพิ่มขึ้นในทุกหัตถการ "ศัลยกรรมเสริมจมูก-ศัลยกรรมดูดไขมัน-ศัลยกรรมยุบโหนกตัดกราม-ศัลยกรรมยกคิ้ว-สุขภาพชาย" แถมใจดีประกาศจ่ายปันผลทั้งหุ้นและเงินสด พร้อมเดินหน้าลงนามข้อตกลงเบื้องต้น ถือหุ้น 40% ใน "ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล-คิน คอร์ปอเรชั่น "เสริมทัพธุรกิจศัลยกรรมความงาม และธุรกิจสื่อโฆษณา
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช : Masterpiece Hospital" เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 153.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.62% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 137.12 ล้านบาท โดย MASTER มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 894.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 609.94 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 81.51 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2/2566 MASTER มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 459.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.37% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 372.17 ล้านบาท
"เราจะเห็นว่า MASTER รายได้เพิ่มขึ้นในทุกหัตถการโดยเฉพาะศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมดูดไขมัน ศัลยกรรมยุบโหนกตัดกราม ศัลยกรรมยกคิ้วและสุขภาพชาย เนื่องจากบริษัทฯ เพิ่มจำนวนแพทย์ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า" นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว
นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในรูปแบบหุ้นปันผลและเงินสด พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับหุ้นปันผลดังกล่าว โดยการจ่ายปันผลเป็นหุ้นมีอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.10 บาท
ส่วนการจ่ายปันผลเป็นเงินสด มีอัตราหุ้นละ 0.0111 บาท สำหรับหุ้นจำนวน 240,000,000 หุ้น คิดเป็นจำนวน 2,666,666.67 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.1111 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26,666,666.67 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลที่จ่ายเทียบกับกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการเท่ากับ 17.42% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ และได้กำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 16 ตุลาคม 2566 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 30 สิงหาคม 2566
สำหรับการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 24,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 264,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 24,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทนั้น เพื่อเป็นการรองรับการจ่ายหุ้นปันผลดังกล่าว
น ส.ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงนามข้อตกลงเบื้องต้น (Term Sheet) เพื่อเข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด ผู้ประกอบกิจการให้คำปรึกษาปัญหาเรื่องความสวยความงาม ทั้งด้านศัลยกรรมความงามครบวงจร การรักษาผิวหน้า และปรับรูปหน้า โดยจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 72,800 หุ้น หรือ 40% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนในราคาหุ้นละ 1,294.23 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 94,220,000 บาท
และ 2.บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจสื่อโฆษณา รวมถึงรับจ้างทำสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 400,000 หุ้น หรือ 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 400 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 160,000,000 บาท โดยมีแผนการใช้เงินเพื่อนำไปใช้ในการขยายกิจการ และคาดว่าจะดำเนินการเข้าลงทุนแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2567 โดยเงินลงทุนทั้งหมดมาจากการระดมทุน (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ หรือ mai เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้กำหนดให้วันที่ 30 สิงหาคม 2566 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 และเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผลระหว่างกาล โดยกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมบริษัทฯ เลขที่ 99/19 ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
น.ส.ลภัสรดา กล่าวทิ้งท้ายว่า คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะเมื่อ "โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช" สามารถเปิดให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น จากการเพิ่มเตียงผ่าตัดและเตียงพักฟื้น รวมทั้งการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต
