xs
xsm
sm
md
lg

I2 ปิดเทรดวันแรกต่ำจอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ เทรดวันแรกปิดต่ำจอง 0.20 บาท หรือ 7.41% มูลค่าซื้อขาย 718.57 ล้านบาท ผู้บริหารเผยเดินหน้าขยายงานตามแผน คาดผลงานครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกจาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 2.5 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องอีก 2-3 ปีข้างหน้า สร้าง New S Curve เพิ่มสัดส่วน Recurring Income หนุนผลการดำเนินงานเติบโต

บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) เข้าซื้อขายในตลาด mai เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 3.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 15.56% จากราคา IPO 2.70 บาท ระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 3.20 บาท ต่ำสุดที่ 2.50 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 2.50 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 7.41% มูลค่าซื้อขาย 718.57 ล้านบาท

นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 เผยว่าคาดผลงานครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกจาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 2.5 พันล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 66 ราว 30-40% พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 15% จากปี 65 ที่มีรายได้รวม 943 ล้านบาท ขณะที่เตรียมนำเงินที่ระดมทุนไปขยายธุรกิจพลังงาน-ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้าง New S Curve เพิ่มสัดส่วน Recurring Income หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น

โดยบริษัทมีแผนเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความชำนาญ และคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีลภายในปีนี้ พร้อมมองว่าธุรกิจเทคโนโลยี สารสนเทศเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องลงทุนเพื่อพัฒนาการให้บริการแก่ประชาชน รวมถึงการใช้งบประมาณของภาครัฐจะเป็นอีกปัจจัยที่เข้ามาช่วยส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

"การเป็น Strategic Partner กับ MFEC ช่วยเพิ่มโอกาสในการรับงานขนาดใหญ่ได้มากขึ้น เนื่องจาก MFEC มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มงานเอกชน ส่วน I2 มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มงานภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต่อไปในอนาคต เชื่อมั่นว่า MFEC จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัท โดยเราสามารถศึกษาและรับองค์ความรู้จากความเชี่ยวชาญที่ MFEC มีและพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน ทั้งนี้กลุ่ม MFEC ได้แสดงเจตนารมณ์ว่าการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในครั้งนี้เป็นการลงทุนในระยะยาว ไม่มีแผนขายหุ้นออกเพื่อทำกำไรในเร็วๆ นี้ และวางแผนที่จะซินเนอร์ยีร่วมกันต่อไปในอนาคต" นายอธิพร กล่าว

ล่าสุด กิจการค้าร่วมไอทูวาร์ ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ กับบริษัท วี เอ อาร์ เอส จำกัด ได้เข้าร่วมในพิธีลงนามสัญญาโครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแห่งแรกของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง BESS หรือเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่จะช่วยลดความผันผวนในระบบไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตไฟฟ้าได้เป็นบางช่วงเวลา แบตเตอรี่นี้จะทำหน้าที่กักเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินจากระบบส่งเพื่อนำไฟฟ้ามาจ่ายในช่วงเวลาที่ต้องการได้ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 1,541.28 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่าการเข้าเทรดวันแรกของหุ้น I2 ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้จากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม และเงินที่ได้จากการขายไอพีโอในครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักในการใช้เงินส่วนใหญ่คือนำไปใช้ขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ทำให้มั่นใจว่า I2 จะเป็นหุ้น Hybrid ที่ผสมผสานกันระหว่าง Growth Stock และ Dividend Stock

สำหรับ I2 มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 210 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 300 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 18 ล้านหุ้น กรรมการและผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทไม่เกิน 12 ล้านหุ้น บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 90 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.70 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น