xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์ต่างชาติย้ายฐานลงทุน ดันตลาดครึ่งปีหลัง CCP ปรับกระบวนการผลิตออกสินค้ารับดีมานด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม
CCP เผยแนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ฟอร์มดีโตต่อเนื่อง คว้างานเมกะโปรเจกต์เพิ่มโครงการ EEC เร่งก่อสร้าง ปัจจัยหนุนนักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิต ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เพิ่ม ยกระดับกระบวนการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน พัฒนาสินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้าโครงการระยะสั้นทั่วประเทศ รับรู้รายได้เร็ว ประมูลงานรัฐ-เอกชนเพิ่มเติม Backlog ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ดันรายได้โตตามเป้าประมาณ 2,600 ล้านบาท เดินหน้าก่อสร้าง บ.ย่อย ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น คาดให้บริการ Q4/2566

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2566 เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก บริษัทคว้างานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเพิ่ม โดยอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบงานในปลายไตรมาส 2-ไตรมาส 4/2566 อีกทั้ง ปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ EEC มีแนวโน้มเร่งตัวก่อสร้างตามแผนพัฒนาระยะที่ 2 รวมถึงได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติตั้งโรงงานในประเทศไทย ผลักดันให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น หนุนความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เพิ่มขึ้น เช่น บ่อพัก รางระบายน้ำ ท่อระบายน้ำขนาดพิเศษ

ขณะที่ บริษัทเร่งเดินหน้าปรับปรุงโรงงานการผลิต เตรียมลงทุนเครื่องจักรใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพ ยกระดับกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารับงานหลากหลาย ช่วยลดต้นทุนแรงงาน ลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต เพิ่มความสามารถทำกำไร อีกทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ คอนกรีตสำเร็จรูปที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape ทั่วประเทศ เช่น กำแพงกันดินรุ่นใหม่ และแผ่นทางเท้ารุ่นใหม่


นอกจากนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าประมูลงานภาครัฐ เอกชนจากทั่วประเทศเข้ามาเพิ่มเติมอีกในช่วงครึ่งปีหลัง ควบคู่การปรับกลยุทธ์เข้าประมูลงานโครงการระยะสั้น รับรู้รายได้เร็ว เช่น งานถนนงานนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ผลักดันให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 2,600 ล้านบาท ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ภาครัฐ 60% เอกชน 40%

สำหรับการร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดการคลังสินค้า เขตปลอดอากร (FreeZone) ในโซนแหลมฉบัง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร และขอใบอนุญาต ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเฟสแรกได้ภายในไตรมาส 4/2566 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น