xs
xsm
sm
md
lg

ฤกษ์ดี!! ซีอีโอ OpenAI เปิดตัวโปรเจ็กต์คริปโต “เวิลด์คอยน์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แซม อัลต์แมน ซีอีโอ OpenAI เปิดตัวโปรเจ็กต์คริปโต “เวิลด์คอยน์” อย่างเป็นทางการ พร้อม “เวิลด์ แอป” ซึ่งเป็นคริปโตวอลเล็ตที่สร้างบนเครือข่ายโพลีกอน รวมถึงโทเคน “เวิลด์ ไอดี” (WLD) นอกจากนี้ยังมีการเปิดแผนขยายการลงทะเบียนด้วยการสแกนม่านตาไปยัง 35 เมืองใน 20 ประเทศ หวังเพิ่มผู้ใช้จาก 2 ล้านรายในขณะนี้เป็น 2,000 ล้านราย

เวิลด์ แอปออกแบบมาเพื่อเป็นคริปโตวอลเล็ตมินิมอลและพาสปอร์ตดิจิตอลในยุค AI ที่พิสูจน์ว่า ผู้ถือพาสปอร์ตเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่บอท เพื่อให้ผู้ใช้มีวิธีจัดการสินทรัพย์ดิจิตอลของตัวเองอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยไปพร้อมกัน

เวิลด์คอยน์สร้างความฮือฮาเมื่อปีที่แล้วจากการเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ universal basic income (UBI) หรือรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า โดยนำเสนอโทเคนที่สามารถแจกจ่ายให้ทุกคนทั่วโลกเท่าๆ กัน อย่างไรก็ตาม นับจากนั้นโปรเจ็กต์นี้มีการปรับเปลี่ยนมาโฟกัสที่ “การพิสูจน์ตัวตนของมนุษย์” เพื่อจัดการความท้าทายในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างคนกับบอทในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (ปัญญาประดิษฐ์) มากขึ้น

การเปิดตัวเวิลด์ แอปถือเป็นความคืบหน้าสำคัญสำหรับเวิลด์คอยน์ที่ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ซึ่งทุกคนสามารถดาวน์โหลดและใช้ได้

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนด้วยการสแกนม่านตาโดยการจ้อง orb ซึ่งเป็นลูกกลมสีเงิน เพื่อสร้างอัตลักษณ์ดิจิตอลที่ไม่ซ้ำกันหรือเวิลด์ไอดี ซึ่งจะมอบให้หลังจากผลการสแกนยืนยันว่า บุคคลนั้นเป็นคนจริงๆ

ทั้งนี้ เวิลด์คอยน์ระบุว่า เวิลด์ ไอดีจะมีความจำเป็นในยุคแชทบอท generative AI อย่าง ChatGPT เนื่องจากสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างคนกับบอท AI

ปัจจุบัน โปรเจ็กต์นี้มีผู้ใช้ 2 ล้านราย ซึ่งอัลต์แมนทวิตระหว่างการเปิดตัวเวิลด์คอยน์อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ (24 ก.ค.) ว่า คาดหวังให้จำนวนผู้ใช้เพิ่มเป็น 2,000 ล้านราย โดยขณะนี้เวิลด์คอยน์ได้ขยายปฏิบัติการสแกนม่านตาไปยัง 35 เมืองใน 20 ประเทศ และผู้สมัครในบางประเทศจะได้โทเคน WLD

อเล็กซ์ บลาเนีย ผู้ร่วมก่อตั้งเวิลด์คอยน์ และซีอีโอทูลส์ ฟอร์ ฮิวแมนิตี้ บอกว่า ตื่นเต้นที่ได้ขยายการใช้เวิลด์คอยน์เข้าสู่เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

โปรเจ็กต์นี้ยังคงมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในแวดวงคริปโตจนถึงซิลลิคอนแวลลีย์ โดยบางคนยกย่องความทะเยอทะยานของเวิลด์คอยน์ ขณะที่คนอื่นๆ มองว่า น่ากลัวและเลวร้าย แต่ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ เวิลด์คอยน์ยังคงมุ่งหน้าสู่เป้าหมายในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการตรวจยืนยันตัวตนในระบบออนไลน์

ทีมงานของเวิลด์คอยน์ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อนำเสนอโซลูชันการป้องกันความเป็นส่วนตัวแบบกระจายศูนย์ที่ปกป้องมนุษยชาติในระบบออนไลน์ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอัตลักษณ์ของตัวเอง

ทีมนักพัฒนายังยืนยันว่า โปรเจ็กต์นี้จะไม่จัดเก็บข้อมูลที่ผู้ใช้ให้ และใช้เทคโนโลยี zero-knowledge proof พิสูจน์ว่าผู้ใช้เป็นคนโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

กระดานเทรดคริปโตหลายแห่ง อาทิ ไบแนนซ์, บายบิต, OKX, เกต และหั่วปี้ ประกาศลิสต์เวิลด์ ไอดีบนแพลตฟอร์ม และราคา WLD ดีดขึ้นสูงสุดที่ 5.29 ดอลลาร์ จากราคาเริ่มต้นที่ 0.15 ดอลลาร์ตั้งแต่ช่วงแรกของการเทรดในวันจันทร์บนแพลตฟอร์มไบแนนซ์ โดยมีปริมาณการซื้อขาย 25.1 ล้านดอลลาร์เมื่อเวลา 10.00 GMT (เวลามาตรฐานเมืองกรีนิช)

ด้วยความเชี่ยวชาญของอัลต์แมน และการสนับสนุนของ OpenAI จึงน่าติดตามอย่างยิ่งว่า แนวทางนวัตกรรมของเวิลด์คอยน์สำหรับสกุลเงินดิจิตอลและการโฟกัสระบบยืนยันตัวตนมนุษย์จะกำหนดอนาคตของคริปโตไปในทิศทางใด

แซม อัลต์แมน ซีอีโอ OpenAI เปิดตัวเวิลด์คอยน์อย่างเป็นทางการ พร้อม “เวิลด์ แอป” และโทเคน “เวิลด์ ไอดี” (WLD)
กำลังโหลดความคิดเห็น