สถาบันหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งฮ่องกง (HKSII) เตรียมเปิดฝึกอบรมเทรดเดอร์สินทรัพย์เสมือนเจเนอเรชั่นใหม่ สะท้อนความมั่นใจของเกาะศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียแห่งนี้ในการผงาดขึ้นเป็นฮับคริปโต
ขณะที่นโยบายและเทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สินทรัพย์เสมือนจึงมีความหมายมากขึ้นสำหรับภาคบริการทางการเงินของฮ่องกง และ HKSII กำลังวางแผนเริ่มฝึกอบรมเทรดเดอร์คริปโตในอีกไม่กี่เดือนนี้
จากผู้สมัครราว 30,000 คนที่เข้ารับการทดสอบในแต่ละปี HKSII มีหน้าที่รับผิดชอบในการฝึกอบรมและจัดสอบใบอนุญาตสำหรับโบรกเกอร์และผู้จัดการสินทรัพย์ในฮ่องกง
สัปดาห์ที่แล้ว โคลิน แชฟเทสลีย์ ประธานกรรมการ HKSII เผยว่า สถาบันจะจัดทำโครงการฝึกอบรมและสัมมนาเกี่ยวกับสินทรัพย์เสมือนใน 2-3 เดือนหน้า
เว็บไซต์ของ HKSII แสดงรายละเอียดงานสัมมนาบนเว็บเกี่ยวกับคริปโตในตารางกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น งานสัมมนาเหล่านี้จะสำรวจหัวข้อ อาทิ สินทรัพย์ดิจิตอลสามารถอยู่ร่วมกับโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีของระบบการเงินดั้งเดิมได้อย่างไร และสินทรัพย์ดิจิตอลสำหรับการจัดการพอร์ต เป็นต้น
อีกหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ดังกล่าวระบุถึงระบบออกใบอนุญาตใหม่ของฮ่องกงสำหรับแพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิตอล โดย HKSII ระบุว่า ต้องการสนับสนุนระบบใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดังนั้น จึงได้พัฒนาโปรแกรมสอบและฝึกอบรมใหม่ซึ่งจะมีการประกาศเร็วๆ นี้
จากการเปิดเผยของแชฟเทสลีย์ กฎระเบียบใหม่จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่อุตสาหกรรมสินทรัพย์เสมือน และเสริมว่า คนหนุ่มสาวสนใจทำงานในอุตสาหกรรมนี้เป็นพิเศษ
HKSII เป็นหน่วยงานหลักในการออกใบอนุญาตให้แก่ภาคบริการทางการเงินของฮ่องกง จึงมีความใกล้ชิดกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (HKSFC)
ภายใต้กฎหมายสินทรัพย์เสมือนของฮ่องกง HKSFC มีหน้าที่ในการกำกับดูแลธุรกิจคริปโต และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางและส่งเสริมความหลากหลายของธุรกิจนี้
เดือนที่ผ่านมา เหลียง ฟง-ยี ประธานบริหาร HKSFC ระบุว่า เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การทำให้ฮ่องกงเป็นฮับสำหรับการเทรดคริปโต แต่ฮ่องกงเลือกที่จะไม่แบนการซื้อขายคริปโตของนักลงทุนรายย่อยเช่นเดียวกับสิงคโปร์ และยอมรับว่า การเทรดคริปโตเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิตอลที่กำลังเติบโต
เธอยังกล่าวถึงกรอบโครงกฎระเบียบใหม่ และเสริมว่า อุตสาหกรรมบล็อกเชนและคริปโตที่กำลังเบ่งบานเป็นความสำเร็จของหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีน
ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า ผู้สมัครเข้ารับการอบรมในโปรแกรมใหม่ของ HKSII จำนวนมากจะสนใจในอาชีพเทรดคริปโต
อย่างไรก็ดี การที่สินทรัพย์ดิจิตอลมีความสำคัญมากขึ้นมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่องานจำนวนมากในภาคบริการทางการเงิน สำหรับพนักงาน 277,000 คนที่ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) รายงานว่า ได้รับการว่าจ้างในภาคการเงินนั้น เทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงสเตเบิลคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน ฮ่องกงกำลังทำโครงการนำร่องเกี่ยวกับ CBDC เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก
ด้วยการคาดว่า ในอนาคตเงินดอลลาร์ฮ่องกงจะกลายเป็นสกุลเงินดิจิตอล บรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงกำลังสำรวจโอกาสที่เทคโนโลยีนี้นำเสนอ ตัวอย่างเช่น ริปเปิล แลบส์ที่ HKMA ดึงเข้าร่วมการตรวจสอบว่า สามารถใช้ CBDC ในการแปลงอสังหาริมทรัพย์เป็นโทเคนได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในฮ่องกงยังคงต้องพึ่งพิงสกุลเงินดิจิตอลรูปแบบอื่นๆ นำไปสู่สถานการณ์ที่สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับความนิยมในการทำธุรกรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมระหว่างประเทศ
ทว่า นักวิชาการของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงติงว่า รัฐบาลควรสนับสนุนสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับดอลลาร์ฮ่องกง เนื่องจากจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน รวมทั้งยังส่งเสริมการใช้ดอลลาร์ฮ่องกงในต่างประเทศ
ปัจจุบัน สเตเบิลคอยน์ยังไม่รวมอยู่ในระบบสินทรัพย์เสมือนของฮ่องกง แต่รัฐบาลคาดหวังว่า จะออกกฎระเบียบใหม่ควบคุมสเตเบิลคอยน์ภายในปลายปีนี้