xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยบาทเปิดตลาดที่ 35.30 แนวโน้มมีโอกาสอ่อนค่าต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (28 มิ.ย.) ที่ระดับ 35.30 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.28 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.15-35.40 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นทดสอบโซน 35.18 บาทต่อดอลลาร์ ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรการรีบาวนด์ของราคาทองคำ) ก่อนที่จะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้างตามการรีบาวนด์ขึ้นของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาทองคำ ท่ามกลางบรรยากาศในตลาดการเงินที่เปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้บ้างและอาจมีการขยับโซนในการแกว่งตัวที่สูงขึ้น หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุแนวต้านแรกแถว 35.30 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ ทั้งนี้ หากไม่มีแรงเทขายสินทรัพย์ไทยที่รุนแรง เงินบาทอาจจะไม่ได้อ่อนค่าต่อไปมากนัก เพราะผู้เล่นในตลาดต่างรอติดตามปัจจัยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ เช่น อัตราเงินเฟ้อ PCE และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานในช่วงท้ายสัปดาห์

ทั้งนี้ เงินบาทอาจจะยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นชัดเจนได้ในระยะสั้น จนกว่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หรือ สถานการณ์การเมืองไทยเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นในการจัดตั้งรัฐบาล (ซึ่งปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง) นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือน เรามองว่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากโฟลว์ซื้อเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินต่างประเทศจากบรรดาผู้นำเข้า ซึ่งเบื้องต้นเรามองว่า แนวรับแรกของเงินบาทจะอยู่ในช่วง 35.10 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวรับสำคัญจะอยู่ในช่วง 35.00 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนโดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดจะทำให้เฟดมีโอกาสที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป แต่ภาพดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้เล่นในตลาดคาดหวังไว้อยู่แล้ว ทำให้บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ และหุ้นในธีม AI สามารถรีบาวนด์ขึ้นแรง (Tesla +3.8% Nvidia +3.1%) ส่งผลให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พุ่งขึ้น +1.65% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +1.15%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 รีบาวนด์ขึ้นเล็กน้อย +0.05% หนุนโดยความหวังว่าทางการจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ (L’ Oreal +0.8% Rio Tinto +0.6%) อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกกดดันโดยท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB ที่ต่างย้ำจุดยืน พร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อสูง

ในฝั่งตลาดบอนด์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด ได้หนุนให้บอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 3.80% อย่างไรก็ดี บอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังไม่สามารถผ่านโซนดังกล่าวได้ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะบอนด์ยิลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยเข้าซื้อ (Buy on Dip) สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์หลายที่ ที่ต่างมองว่า บอนด์ยิลด์ระยะยาว อย่าง บอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสทยอยปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.20%-3.50% ในช่วงสิ้นปี

ทางด้านตลาดค่าเงิน แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาดีกว่าคาด แต่ความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยก็ลดลงตามการเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นของผู้เล่นในตลาด ส่งผลให้เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 102.5 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 102.3-102.6 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา) ในส่วนของราคาทองคำ บรรยากาศในตลาดการเงินที่พลิกกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงและการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ย่อตัวลงมาแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,920-1,925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราประเมินว่าผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจรอทยอยซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ เรายังคงมองว่าผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก เช่น ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของทั้ง ECB และเฟด

นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองรัสเซียจะเป็นอีกสิ่งที่ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งความวุ่นวายทางการเมืองรัสเซียอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น