สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกับ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน แถลงกรณี บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) เพื่อหวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อภาพรวมตลาดทุน แต่ยังไม่มีการชี้แจงการเยียวยาผู้ลงทุนที่เสียหายทั้งจากการลงทุนหุ้นและหุ้นกู้ STARK ที่เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท จากหุ้นกู้ 5 รุ่น รวม 9.1 พันล้านบาท และความเสียหายจากการทุจริตงบการเงินราว 2.5 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับรวมมูลค่าตลาด (Market Cap) ที่ราคาหุ้น STARK ดำดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
ขณะที่การดำเนินการตรวจสอบผู้สอบบัญชี และบริษัทผู้สอบบัญชี นายธวัชชัย ทิพย์โสภณ รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ไม่สามารถตรวจสอบและเอาผิดกับบริษัทผู้สอบบัญชีได้ เพราะมีอำนาจตามกฎหมายในการให้ความเห็นผู้สอบบัญชีเท่านั้น ซึ่งยอมรับว่ามีช่องโหว่ และกำลังอยู่ระหว่างแก้กฎหมาย
ส่วนการตรวจสอบผู้สอบบัญชี สำนักงาน ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมหากพบพบว่ามีส่วนรู้เห็นการกระทำความผิดจะมีโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดทุจริตรายอื่นที่มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องรายใด
ขณะที่กรณีหุ้นกู้ STARK จะเข้าไปตรวจสอบว่าหุ้นกู้ที่ระบุเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น แต่กลับมีการเสนอขายให้นักลงทุนรายย่อยด้วย
ก.ล.ต.และ ตลท.ยังชี้แจงการที่ไม่มีการยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องรายใดในขณะนี้ เนื่องจากเป็นกรณีที่แตกต่างจก บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ที่มีผู้เกี่ยวข้องและผู้เสียหายชัดเจน แต่กรณีนี้ยังต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ อีกมาก
"ในมุม ก.ล.ต. การบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนคาดหวังความรวดเร็วและความเฉียบขาด เรื่องนี้ทีมงาน ก.ล.ต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่กระบวนการทำงานให้รายละเอียดไม่มากนัก บางเรื่องขอความร่วมมือกับ ปปง. ดีเอสไอ การทำงานเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นมีกรอบเวลาทำงาน ขณะที่ ก.ล.ต.แม้ไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้ถือหุ้นได้แต่ได้เข้าไปช่วยเหลือ อะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วย กับทางตลาดหลักทรัพย์ บลจ. สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จะร่วมมือเยียวยาในแต่ละหน่วยงาน" นายธวัชชัย กล่าว
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า หุ้นกู้ของ STARK มีจำนวน 5 รุ่นที่เป็น Call Default หรือถูกเรียกให้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างโดยพลัน รวมเป็นมูลค่า 9.1 พันล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK ทั้งนักลงทุนไทยและนักลงทุนสถาบัน รวม 4,528 ราย
ด้าน น.ส.สิริพร สงบธรรม เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) กล่าวว่า จากที่สมาคมฯ ได้เปิดให้ผู้ลงทุนหุ้น STARK ลงทะเบียนเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตั้งแต่ 19-25 มิ.ย.66 มีจำนวนผู้ลงทะเบียน 1,759 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 4,063 ล้านบาท โดยหลังจากนี้สมาคมฯ จะนำข้อมูลของผู้เสียหายมาตรวจสอบเบื้องต้น และให้ความรู้ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม โดยจะเป็นคนกลางเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน