xs
xsm
sm
md
lg

FVC คว้างานเข้าพอร์ต 12 โครงการ มูลค่าเฉียด 50 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฟิลเตอร์ วิชั่น รุกหนักครึ่งปีแรกคว้างานใหม่เข้าพอร์ตแล้ว 12 งาน มูลค่ารวม 49.67 ล้านบาท ทยอยติดตั้งและรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 หลังปรับกลยุทธ์การตลาดต่อยอดความเชี่ยวชาญในธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำเชิงพาณิชย์ เดินหน้าเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น หนุนรายได้ทั้งปีแตะระดับพันล้านบาท

นายวิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสการรับงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ มีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้า 12 งาน มูลค่ารวม 49.67 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มติดตั้งระบบดังกล่าวได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 นี้ และคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป

อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีการวางกลยุทธ์การตลาด เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในเทคโนโลยีบำบัดและการฆ่าเชื้อในน้ำมาช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ภายใต้การขยายงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโครงการสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำขนาดใหญ่ โดยตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 4/2565 บริษัทฯ สามารถเข้าดำเนินงานโครงการระบบน้ำขนาดใหญ่แล้วเสร็จต่อเนื่องตามที่วางไว้ ส่งผลให้บริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตามแผนกำหนด และคาดว่าหลังจากนี้บริษัทฯจะมีงานใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของกลุ่มลูกค้าครัวเรือน รวมถึงลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่กลับมาลงทุนในระบบบำบัดน้ำ

ขณะที่กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจเริ่มส่งสัญญาณบวก ทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งในกลุ่มร้านอาหาร และรวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการกลับมาเปิดดำเนินกิจการในสภาวะปกติ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้คำสั่งซื้ออะไหล่ ไส้กรอง อุปกรณ์กรองน้ำ รวมถึงงานบริการดูแลบำรุงรักษา เริ่มกลับมาทยอยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสอดรับกับการที่ลูกค้าเตรียมแผนงานติดตั้งระบบน้ำใหม่ ประกอบกับจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาด ส่งผลให้ลูกค้ามีความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ความสะอาดของอาหารและเครื่องดื่มเกี่ยวกับการจัดการเรื่องเชื้อปนเปื้อนในอาหาร ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโอโซน เช่น เครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจนและน้ำโอโซนให้ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำได้เพิ่มขึ้น

ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) หรือกลุ่ม บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส KTMS นั้น ปัจจุบันทาง KTMS มีการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียม ซึ่งมีการตั้งเป้าปี 2566 จะขยายสาขาประมาณ 4-9 แห่ง และเครื่องไตเทียมประมาณ 70-82 เครื่อง ขณะที่บริษัท เนโฟรวิชั่น จำกัด (ภายใต้บริษัทย่อย KTMS) ปัจจุบันมีแผนสำหรับการเปิดสาขา และซื้อเครื่องไตเทียม ในปี 2566 โดยจะเปิดสาขา 1-2 แห่ง และซื้อเครื่องไตเทียมประมาณ 16-24 เครื่อง เช่นเดียวกันบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 6.00 ล้านบาท โดยคาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 และในส่วนของบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 16.05 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งและคาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 นี้

ดังนั้น หากพิจารณาจากแผนการดำเนินงานของการให้บริการทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ จะหนุนการอัตราการเติบโตรายได้ของ FVC ในปี 2566 แตะระดับพันล้านบาท ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่ม

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 214.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.88% (YoY) และมีกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ จำนวน 8.14 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกจะปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ ยังคงจับตาภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่มีตัวแปรหลักเรื่องอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความยืดเยื้อของสงครามระหว่างรัสเซียและ ยูเครน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านพลังงาน ต้นทุนสินค้า และบริการของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น